พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด Mini Concert & Fan Meeting รุกขยายช่องทาง Traditional Trade
บมจ. เถ้าแก่น้อย หรือ TKN เดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ Idol Marketing เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ไปยังผู้บริโภค ดึง “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง” ไอดอลขวัญใจชาวอีสาน ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการหมอลำ นั่งแท่น Brand Ambassador ตัวแทนสายลูกทุ่ง เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงานภาคอีสาน และผู้บริโภคที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง-หมอลำ พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด Mini Concert & Fan Meeting ตลอดปี 2568 เดินหน้าขยายช่องทาง Traditional Trade ดึงส่วนแบ่งในภาคอีสานเพิ่มขึ้น
นายปรมินทร์ จาวลา ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าสานต่อกลยุทธ์หลักอย่าง Idol Marketing มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ไปยังผู้บริโภคและสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เถ้าแก่น้อย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย เรียกได้ว่าเป็นผู้นำเทรนด์ Idol Marketing โดยการใช้ไอดอลแต่ละคนให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และเป้าหมายที่จะมุ่งไป ซึ่งเน้นการวางกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงทำการตลาดเพื่อสร้างสีสันให้แก่วงการตลาดสาหร่ายและสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นภาคอีสาน จึงคาดว่าการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่ช่วยผลักดันยอดขาย และคาดว่าจะช่วยขยายช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) ของแบรนด์เถ้าแก่น้อยในท้องถิ่นทุกอำเภอให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับ “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง” หรือ คุณรัตนาภรณ์ อุดทุม เพื่อเป็น Brand Ambassador ตัวแทนสายลูกทุ่ง ด้วยความโดดเด่นในการเป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังประจำวงหมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง เจ้าของเพลง ‘หอบฝันมาหลังฮ้าน’ โดยถึงแม้จะเพิ่งเริ่มต้นการเป็นนักร้อง แต่เรียกได้ว่าเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ที่มีพรสวรรค์และพรแสวงในการร้องเพลง เป็นเด็กกตัญญู ส่งผลให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับทุกเพศ ทุกวัย จึงถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการหมอลำ นอกจากนี้ ยังมีฐานแฟนคลับทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือตอนล่าง และยังโด่งดังมากในโซเชียลมีเดีย (Social Media) บริษัทฯ จึงคาดว่าจะสามารถการสร้างการรับรู้และการตลาด รวมถึงเข้าถึงไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงานภาคอีสาน และผู้บริโภคที่ชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง-หมอลำได้มากขึ้น
นอกจากนี้ สำหรับแคมเปญเจาะภาคอีสานในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของเถ้าแก่น้อยที่มุ่งเน้นเจาะไลฟ์สไตล์ลูกทุ่ง เพื่อตอกย้ำว่าแบรนด์เถ้าแก่น้อยสามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่ม โดยเตรียมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษ Mini Concert & Fan Meeting สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เหล่าแฟนคลับจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับ อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ซึ่งจะช่วยสร้างความสุขและความสนุกสนานให้คนในท้องถิ่น โดยประเดิมที่แรก ณ ร้าน ‘วิชโก้’ ร้านค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ใน จ.นครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มแฟนคลับ และร้านค้าปลีก ‘ตั้งหงี่สุ่น’ จ.อุดรธานี ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 พร้อมกันนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2568 โดยสามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ที่ Fanpage: TaokaenoiClub
ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการขยายช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) ให้ครอบคลุมทั่วภาคอีสาน เพราะถือเป็นช่องทางที่มีบทบาทสำคัญ โดยปัจจุบัน เถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งตลาดสาหร่ายในช่องทาง Traditional Trade อยู่ที่ 30-40% นับเป็นหนึ่งในช่องทางที่มีโอกาสในการเติบโตของผลิตภัณฑ์สาหร่ายได้อีกมาก อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดจากการร่วมมือกับ Local Distributor Partner (ผู้แทนจำหน่ายในท้องถิ่น) จำนวน 14 ราย ซึ่งเป็นการขยายช่องทางจำหน่ายหลากหลายกลุ่ม ทั้งร้านค้าแบบดั้งเดิมหรือ Traditional Trade (TT) เช่น ร้านโชห่วย, ช่องทางร้านค้าท้องถิ่น Local Modern Trade (MT) เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น, ร้านสะดวกซื้อท้องถิ่น และช่องทาง Open Trade (OT) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับร้านโชห่วย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้ช่วยกระจายสินค้าของเถ้าแก่น้อยในเชิงลึกได้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
“การดำเนินกลยุทธ์ Idol Marketing ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา บริษัทฯ จะเน้นเป็นศิลปินเกาหลี K-pop หรือคู่จิ้น ดังนั้นการดึง อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง มาร่วมในครั้งนี้ จึงถือเป็นการตอบโจทย์เทรนด์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หลากหลาย เพราะเราต้องการที่จะเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม และนับเป็นการเปิดประตูสู่กลุ่มลูกค้าในภาคอีสาน เพื่อตอกย้ำว่าสาหร่ายเถ้าแก่น้อยสามารถอยู่ในทุกโมเมนท์ของผู้บริโภคและทุกที่ทุกเวลา (Every day, every moment) และพร้อมขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ในดวงใจของผู้บริโภคในอนาคต” นายปรมินทร์ กล่าว