ถ้าจะพูดถึงประเทศที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียน หนึ่งในประเทศที่ติดโผจะต้องมีประเทศไทยอย่างแน่นอน ยืนยันด้วยศักยภาพของภาพรวมตลาดรถยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยี ความรู้ และบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่และอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ความพร้อมทางด้านระบบโลจิสติกส์ รวมไปถึงแบรนด์รถยนต์กว่าหลายสิบแบรนด์ที่ตบเท้ากันเข้ามาตั้งโรงงานการผลิตและผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่องมากกว่าหลายสิบปี
ประเทศไทยยังมีนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งการผลิตและจำหน่ายในระดับอาเซียน แบรนด์ชั้นนำจากแผ่นดินใหญ่ที่ต่างเข้ามาปักหมุดสร้างฐานการผลิตรถยนต์ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดจำหน่ายตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาในภูมิภาค รวมไปถึงแบรนด์ “เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor – GWM)” แบรนด์รถยนต์ล่าสุดที่เข้ามาบุกตลาดไทย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีการพัฒนา เปลี่ยนแปลง และก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างไร้ขีดจำกัดตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคที่จะต้องตามยุคสมัยให้ทัน แต่องค์กรก็จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาเพื่อก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกวินาทีเช่นเดียวกัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก โดยเริ่มก่อตั้งในปี 1984 ภายใต้ชื่อบริษัท เกรท วอลล์ อุตสาหกรรม ซึ่งในปี 1990 มร. แจ็ค เว่ยซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 26 ปี ได้เข้ามาบริหาร
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้เติบโตและประสบความสำเร็จจวบจนถึงปัจจุบัน ด้วยระยะเวลาเพียง 30 ปี เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำทั้งด้านรถกระบะ และรถเอสยูวีระดับโลก พร้อมความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ นวัตกรรม และพลังความคิดสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคและสังคม แน่นอนว่าเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้ทั้งวิสัยทัศน์ขององค์กรและยอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
เอาชนะใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
ในปี 1996 Great Wall Pickup รุ่น Deer ถือเป็นรถยนต์คันแรกที่เริ่มผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์เกรท วอลล์ มอเตอร์ และได้รับกระแสตอบรับดีมากจนขึ้นแท่นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดรถกระบะในสาธารณรัฐประชาชนจีน ยาวนานติดต่อกันกว่า 23 ปีตั้งแต่เริ่มจำหน่ายจวบจนถึงปัจจุบัน และส่งไม้ต่อความนิยมมาสู่อีกหนึ่งแบรนด์ย่อยของเกรท วอลล์ มอเตอร์อย่าง HAVAL ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดรถเอสยูวีในสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่อง โดย HAVAL เป็นแบรนด์แรกในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มียอดขายเกิน 5 ล้านคันและขึ้นเป็นแบรนด์
รถเอสยูวีที่มียอดขายอันดับหนึ่งติดต่อกันนานกว่า 9 ปี อีกทั้งยังเป็น TOP 3 ผู้ผลิตรถเอสยูวีระดับโลกอีกด้วย โดยปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างยอดขายกว่า 1 ล้านคันต่อปีเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานยืนยันความยิ่งใหญ่และความเป็นผู้นำของเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้อย่างดี
กว่าจะมีวันนี้ได้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ไม่ได้มาด้วยโชคช่วย แต่มาด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่วางแผนมาอย่างดี โดยเริ่มจากการมีแบรนด์ย่อยมากถึง 4 แบรนด์ เพื่อสร้างการเข้าถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำและตรงจุด ผ่านความหน้าเชื่อถือของแบรนด์แม่อย่างเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่ผู้บริโภคสามารถวางใจในเรื่องของคุณภาพ เทคโนโลยี และความคุ้มค่า โดยแบรนด์ทั้ง 4 แบรนด์มีคาแรกเตอร์รวมถึงเอกลักษณ์ที่แตกต่างและโดดเด่น โดยแบรนด์ย่อยของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้แก่
- HAVAL (ฮาวาล) แบรนด์รถเอสยูวี ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 จากความแข็งแกร่งของตัวผลิตภัณฑ์และยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของรถเอสยูวีของเกรท วอลล์ มอเตอร์ทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีนและทั่วโลก ซึ่งรถรุ่นที่สร้างชื่อให้ HAVAL เป็นที่รู้จักทั่วโลกคือ รุ่น H6 เป็นรถเอสยูวีที่มีเทคโนโลยีพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย โดยปัจจุบันเป็นรุ่นใน Generation 3
- WEY (เวย์) แบรนด์รถเอสยูวีลักชัวรี่ ซึ่งก่อตั้งในปี 2016 ตามผู้ก่อตั้งเกรท วอลล์ มอเตอร์ มร. แจ็ค เว่ย ถือเป็นแบรนด์รถเอสยูวีลักชัวรี่แบรนด์แรกของจีน โดยมีนักวิจัยและดีไซน์เนอร์กว่า 1,600 คน ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ WEY เพื่อให้มีคุณภาพทัดเทียมกับรถยนต์หรู
- ORA (โอรา) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ที่นำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นที่แตกต่างกันตามรูปแบบความต้องการของการใช้งาน ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์เพิ่งมีการเปิดตัวรถยนต์ ORA รุ่นใหม่ๆ เอาใจคนรักแมวที่งาน Chengdu Motor Show 2020 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น รุ่น Good Cat, White Cat, และ Black Cat
- GWM POER (จีดับเบิลยูเอ็ม พาวเออร์) แบรนด์รถกระบะ ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นเวลา 23 ปีนับตั้งแต่เริ่มจำหน่ายในปี 1996 จวบจนถึงปัจจุบัน
* ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่
เติบโตในจีน สยายปีกสู่เวทีระดับโลก
ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขยายกำลังการผลิตและจำหน่ายอย่างรวดเร็วจากระดับประเทศสู่ระดับโลก โดยมีโรงงานที่ดำเนินการมากกว่า 14 แห่ง (ยังไม่รวมอินเดียและไทย) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสาธารณรัฐประชาชนจีน 9 แห่ง และต่างประเทศอีก 5 แห่ง โดยโรงงานที่จังหวัดระยอง จะเป็นโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มรูปแบบในต่างประเทศแห่งที่ 3 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์รองจากโรงงานในประเทศรัสเซียและอินเดีย นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ยังให้ความสำคัญเป็นอันมากกับการวิจัยและพัฒนา โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาอีกกว่า 10 แห่งทั่วโลกใน 7 ประเทศ (สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ออสเตรีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี) และมีเครือข่ายมากกว่า 500 แห่งในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดขายส่งออกนอกประเทศกว่า 700,000 คัน และล่าสุดภายใต้กลยุทธ์ Globalization เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ตัดสินใจขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน
เปิดให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ หนึ่งในกลยุทธ์ที่โดนใจ
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญไม่แพ้กันที่ทำให้เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถครองใจกว่าพันล้านคนได้ คือ การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยลูกค้าจะเป็นทั้งศูนย์กลางและเป้าหมายหลักในการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงยานยนต์เพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ อาทิ ในการเปิดตัวรถยนต์คันใหม่ภายใต้แบรนด์ HAVAL ผู้บริโภคสามารถร่วมโหวตชื่อรุ่นผ่านโปรแกรม WeChat (Social Media ที่เป็นที่นิยมในสาธารณรัฐประชาชนจีน) โดยชื่อที่ได้รับผลโหวตสูงสุดจะได้นำมาตั้งชื่อรุ่นจริงๆ ซึ่งชื่อรุ่นสุดน่ารักอย่าง Big Dog หรือ ต้าโก่ว ก็เป็นชื่อที่มาจากผลโหวตของประชาชนนั่นเอง กลยุทธ์นี้ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์คันใหม่มากเป็นพิเศษ จนอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง
พร้อมเข้าตลาดไทยอย่างเต็มตัว
ในวันนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์เตรียมความพร้อมที่จะนำวิสัยทัศน์ ผลิตภัณฑ์ระดับโลก และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมานำเสนอให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตและการสัญจร พร้อมช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมุ่งมั่น ด้วยความเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวขึ้นสู่การเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company)
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ยังมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุนและการจ้างงานในประเทศไทย ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 2.2 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาวอีกด้วย โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายโรงงานกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) อย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว และยังพาชมนวัตกรรมเพื่ออุ่นเครื่องเรียกความตื่นเต้นก่อนนำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดไทยจากงาน Beijing International Automotive Exhibition 2020 ผ่าน Live Streaming ทาง Facebook Official Page : GWM Thailand อีกด้วย
อีกไม่นานเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเริ่มผลิตและจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาร่วมลุ้นกันว่า แบรนด์นวัตกรรมยานยนต์สุดแข็งแกร่งที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีแบรนด์นี้ จะสามารถขึ้นแท่นครองใจคนไทยและประสบความสำเร็จในการทำการตลาด รวมถึงพาคนไทยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีได้สำเร็จหรือไม่ เช่นเดียวกับคำกล่าวของ Jack Wei ประธานเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งหวังที่จะสร้างแบรนด์เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความคล่องตัวและความยั่งยืนสู่โลก”