ปักกิ่ง - ในวันที่ 2 ของการประชุม Ultra-Broadband Forum (UBBF) ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นแบบออนไลน์ คุณ Ryan Ding กรรมการบริหารบริษัทหัวเว่ยและประธานของ Carrier Business Group ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “Intelligent Experiences Unlock New Value”
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยและพันธมิตรของบริษัทได้ร่วมงานกัน เพื่อแสดงให้เห็นคุณประโยชน์ทางอุตสาหกรรมของเครือข่ายกิกะแบนด์และบรอดแบนด์ระดับพรีเมียม และเดินหน้าสำรวจหาคุณประโยชน์ใหม่ ๆ ในเรื่องของความเร็วสูงระดับกิกะบิต ประสบการณ์เครือข่าย ประสิทธิภาพในการดำเนินการและบำรุงรักษา (O&M) ไปจนถึงระบบนิเวศอุตสาหกรรม และเมื่อผนึกกำลังกันแล้ว บริษัทเหล่านี้ก็ได้ร่วมกันเพิ่มพูนคุณประโยชน์ทางการค้าและอุตสาหกรรมของบรอดแบนด์ประจำที่ให้ถึงขีดสุด
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เครือข่ายบรอดแบนด์ประจำที่ได้เข้ามาปลดล็อกคุณประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีโครงสร้างบรอดแบนด์พื้นฐานระดับเวิลด์คลาส เครือข่ายบรอดแบนด์ประจำที่ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำให้การทำงาน การผลิต การศึกษา และเศรษฐกิจ ยังคงเดินหน้าต่อไป
คุณ Ding เปิดเผยว่า การลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ให้บริการเครือข่าย ประกอบกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ในเรื่องบรอดแบนด์ประจำที่ ได้เข้ามาปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ และจะกลายเป็นกลไกอันทรงพลังสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเขายังเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องยกระดับความพยายามขึ้นอีกในเรื่องของบรอดแบนด์ประจำที่ เปลี่ยนโฟกัสจากการเชื่อมต่อครัวเรือนไปเป็นการเชื่อมต่อองค์กร และนำเสนอประสบการณ์บริการอันเป็นที่สุดให้แก่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ คุณ Ding เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมจำเป็นต้องขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก พร้อมทำหน้าที่ยกระดับคุณประโยชน์ทางการค้าของบรอดแบนด์ประจำที่ให้ถึงขีดสุด นั่นคือเหตุผลที่หัวเว่ยเชื่อว่า การเชื่อมต่ออัจฉริยะจะเป็นขอบข่ายสำคัญสำหรับนวัตกรรมระดับอุตสาหกรรม และจะช่วยให้บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถสำรวจหาโอกาสใหม่ ๆ ในทางธุรกิจ และทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เกิดการพลิกโฉมทางดิจิทัล
Home+: ประสบการณ์ที่ดีขึ้นและบริการที่หลากหลายมากขึ้น
ในขณะที่การเชื่อมต่อออนไลน์มีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรามากขึ้น บ้านของเราก็กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ โดยการเชื่อมต่ออัจฉริยะจะทำให้ครัวเรือนต่าง ๆ สัมผัสกับประสบการณ์บริการที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรอดแบนด์ความเร็วสูง สัญญาณครอบคลุมเต็มประสิทธิภาพ และความเป็นเลิศในเรื่องข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) สิ่งนี้จะทำให้บ้านเป็นมากกว่าพื้นที่อยู่อาศัย เพราะจะกลายเป็นสถานที่ที่ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์อัจฉริยะแบบ “Home+”
หัวเว่ยได้นำเสนอสมการในการยกระดับคุณประโยชน์ทางดิจิทัลจากครัวเรือนให้ถึงขีดสุด นั่นคือ คุณประโยชน์ทางดิจิทัลจากครัวเรือน = ความเร็วบรอดแบนด์ + เครือข่ายครัวเรือน + บริการอันหลากหลาย ดังรายละเอียดด้านล่าง
ตัดสินใจสร้างเครือข่ายอย่างมีข้อมูลรองรับเพื่อให้ได้บรอดแบนด์ที่เร็วขึ้น: รัฐบาลจำเป็นต้องรวมการสร้างเครือข่ายบรอดแบนด์เข้าไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมหานโยบายและการสนับสนุนทางการเงินรองรับ ส่วนผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมในการวางแผน สร้าง ติดตั้ง O&M และดำเนินโครงสร้างเครือข่ายพื้นฐาน โดยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานมูลค่าสูงและสร้างพื้นที่อยู่อาศัยระดับกิกะบิต เพื่อส่งเสริมการยกระดับบริการบรอดแบนด์ในวงกว้าง
เชื่อมต่อผู้ใช้งานทุกคนเพื่อความครอบคลุมเต็มรูปแบบ: การมอบประสบการณ์การใช้งาน Wi-Fi คุณภาพสูงแก่ครัวเรือนเป็นความท้าทายหลัก ๆ ของผู้ให้บริการเครือข่าย โดยการนำผลิตภัณฑ์ Wi-Fi ไปให้บริการ และนำบริการ Wi-Fi ไว้บนแพลตฟอร์ม จะทำให้ประสบการณ์ Wi-Fi ภายในครัวเรือนนั้นมองเห็นได้ บริหารจัดการได้ และบำรุงรักษาได้ ซึ่งยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของผู้ใช้งานในบ้าน ปัจจุบัน หัวเว่ยกำลังร่วมงานกับผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อส่งเสริมโซลูชัน fiber-to-the-room (FTTR) ซึ่งสามารถสนับสนุนให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ รองรับการใช้งานสมาร์ทโฮม
การันตีระดับประสบการณ์บริการเป้าหมาย: เพื่อยกระดับประสบการณ์สำหรับครัวเรือนไปอีกขั้น ความสามารถในการระบุบริการเป้าหมายอย่างชาญฉลาดได้เข้ามามีสำคัญมากกว่าที่เคย ด้วยเหตุนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถใช้ AI เพื่อหาประเภทบริการครัวเรือน และให้บริการได้อย่างถูกต้องด้วยระดับประสบการณ์รับประกันคุณภาพตามกรณีการใช้งานต่าง ๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถร่วมงานกับผู้ให้บริการ OTT ได้อย่างใกล้ชิดขึ้น เพื่อสร้างรายได้จากระบบนิเวศการใช้งาน จากนั้นก็นำเสนอระดับประสบการณ์ที่รับรองประสิทธิภาพแล้วให้กับบริการเป้าหมาย เพื่อสร้างรายได้จากบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายยังสามารถสำรวจหาโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฮม ได้ด้วย
Enterprise+: สร้างมูลค่าดิจิทัลสูงสุดด้วยประสบการณ์ที่ดีกว่า
สำหรับองค์กร การปรับสู่ดิจิทัลนั้นเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเงินทุน แรงงาน ทรัพย์สิน ข้อมูล และข้อกำหนด แม้การเชื่อมต่อจะเป็นสิ่งสำคัญขององค์กรดิจิทัล แต่ผู้ให้บริการก็ยังคงเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในด้านการให้บริการการเชื่อมต่อที่มั่นคงแก่องค์กร การเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่างเป็นระบบจะยกระดับประสบการณ์องค์กรใน 3 ด้าน ได้แก่ ความครอบคลุม สถาปัตยกรรม และการผสมผสาน และช่วยให้องค์กรก้าวสู่ความเป็นดิจิทัล
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้คิดค้นสมการที่สามารถช่วยสร้างมูลค่าดิจิทัลจากองค์กรได้มากกว่าเดิม นั่นคือ มูลค่าดิจิทัลขององค์กร = ความครอบคลุม x สถาปัตยกรรม x การผสมผสาน ดังรายละเอียดด้านล่าง
ความครอบคลุมอย่างอัจฉริยะและราบรื่นด้วยเทคโนโลยีมากมาย: ผู้ให้บริการเครือข่ายจำเป็นต้องพัฒนาแผนบริการที่ครอบคลุมและใช้งานสายใยแก้วส่วนตัวภายใน 300 เมตรขององค์กรผู้ใช้ ผู้ให้บริการยังจำเป็นต้องรวมเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น 5G, OTN, IP และ PON เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเครือข่ายใยแก้ว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการต่าง ๆ ของแต่ละองค์กรด้วยการมอบผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไป นอกจากนี้ แต่ละองค์กรยังสามารถใช้ทรัพยากรเครือข่ายที่มีอยู่เดิมของตนเองได้อย่างเต็มที่ เช่น เมืองที่ใช้ไฟเบอร์เต็มรูปแบบ เพื่อใช้งานเครือข่ายเดียวที่ทำหน้าที่หลายอย่าง และหนึ่งสายส่วนตัวที่จัดการบริการต่าง ๆ
ประสบการณ์ที่กำหนดด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นและอัจฉริยะ: ผู้ให้บริการต้องการสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นและอัจฉริยะที่ไม่แออัด ทำงานอยู่เสมอ ปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย สถาปัตยกรรมประเภทนี้สามารถช่วยให้สำเร็จตามข้อกำหนด SLA รวมถึงการันตีแบนด์วิธ ความหน่วง ความน่าเชื่อถือ และเวลาเตรียมการเพื่อมอบการบริการ สถาปัตยกรรมดังกล่าวสำคัญสำหรับการให้ประสบการณ์แบบกำหนดและสำหรับการสร้างรายได้จาก SLA
หลอมรวมคลาวด์และเครือข่ายเพื่อมอบประสบการณ์ที่หลากหลาย: หัวเว่ยเชื่อว่าความสามารถเครือข่ายจะกลายเป็นพื้นฐานในสักวันหนึ่ง ขอบเขตเครือข่ายจะหายไป และคลาวด์กับเครือข่ายจะรวมกันอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ให้บริการจะสามารถสร้างความหลากหลายให้กับข้อเสนอของตนเองได้ในขณะที่ให้ประสบการณ์แบบกำหนดเอง ตลอดช่วงการใช้งานของผู้ใช้ตั้งแต่การซื้อจนถึงการใช้งาน นอกเหนือไปจากบริการคลาวด์และเครือข่ายแล้ว ยังจะให้การปรับสู่คลาวด์รวมถึงการบริการคลาวด์และเครือข่ายที่แตกต่างกัน
ในตอนท้ายของสุนทรพจน์ คุณ Ding ระบุว่า การพัฒนาธุรกิจและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ การเชื่อมต่ออัจฉริยะเกี่ยวข้องกับ 3 นวัตกรรมสำคัญ ได้แก่ การสร้างเครือข่ายอัจฉริยะ เครือข่ายคลาวด์อัจฉริยะ และการเชื่อมต่อระหว่างการประมวลผลกับเครือข่าย หัวเว่ยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้ายิ่งขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าดิจิทัลที่เหนือกว่าเดิมให้กับบ้านและองค์กรด้วยการใช้สมการการสร้างรายได้ 2 สมการข้างตัน และส่งมอบประสบการณ์อัจฉริยะผ่านการเชื่อมต่อที่มีอยู่ทุกหนแห่ง เมื่อร่วมกันจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม และก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
ข้อมูลจาก: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์