ด้วยบริการคลาวด์อัจฉริยะคุณภาพระดับโลกเพื่อประสิทธิภาพการทำธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และระบบการเรียนรู้ของเครื่องสอดรับการขับเคลื่อนธุรกิจยุค New Normal
บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด (Tencent) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริการด้านเนื้อหา เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และโซลูชันด้านเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ยุคดิจิทัล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตร บริษัท อัฟวาแลนท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชัน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศไทย ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เปิดตัวบริการแพลตฟอร์มคลาวด์อัจฉริยะจากเทนเซ็นต์ คลาวด์ ที่จะสามารถรองรับและตอบสนองความต้องการด้าน Internet of Things (IoT) และ Data Analytics ของธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รุกเจาะกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ในตลาดอาเซียน ตั้งเป้าบริการคลาวด์อัจฉริยะนี้จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมร่วมผลักดันธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์
การร่วมมือกันครั้งนี้มุ่งนำเสนอบริการระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง และมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และแพลตฟอร์มปฎิบัติการสำหรับงานสัมมนาออนไลน์ประสิทธิภาพสูง Tencent Cloud Conference เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ โรงพยาบาล ธนาคาร ธุรกิจประกัน ลอจิสติกส์ และการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซลูชันและบริการอีกมากมายสำหรับองค์กรที่ต้องการเร่งพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในยุค New Normal เช่น Customer Experience, Digital Transformation, Process Automation, Real-time Business, Big Data, AI และ Low Code Delivery Model เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้สามารถให้บริการในรูปแบบ SaaS (Software as a Service)
มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด “เทนเซ็นต์ คลาวด์ มุ่งมั่นที่จะมอบนวัตกรรมที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนด้วยความเข้าใจเชิงลึกในด้านการให้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ซึ่งพิสูจน์แล้วจากผู้ใช้งานกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับอัฟวาแลนท์ ในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ในครั้งนี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เทนเซ็นต์ขยายพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจ และนำเสนอบริการคลาวด์ โซลูชันของเราให้กับกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น”
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ และอัฟวาแลนท์ มอบบริการระบบปฏิบัติการคลาวด์อัจฉริยะ ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ทีมสนับสนุนของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในประเทศไทย ยังสามารถให้บริการและคำปรึกษากับลูกค้าคนไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในประเทศได้อีกด้วย
มร. ชาง กล่าวต่อว่า “เทนเซ็นต์ คลาวด์ มอบบริการระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับเวิล์ดคลาส ที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งสามารถมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม อีกทั้งการมีศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งเมื่อผสานกับจุดแข็งของอัฟวาแลนท์ที่มีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าคนไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้บริการของเราได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ทั้งในประเทศไทย และในตลาดอาเซียน”
ทั้งเทนเซ็นต์ คลาวด์ และอัฟวาแลนด์จะมอบบริการคลาวด์แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่จะสามารถรองรับ และตอบสนองความต้องการด้าน Internet of Things (IoT) และ Data Analytics ที่กำลังเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก
นายอัครพล บุญวรเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัฟวาแลนท์ จำกัด กล่าวว่า “เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว ส่งผลให้การขับเคลื่อนธุรกิจขององค์กรต่างๆ เริ่มทยอยก้าวข้ามยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแล้ว และกำลังเข้าสู่ยุค Maker Generation ซึ่งเป็นยุคที่ทุกองค์กรต้องสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในทุกๆ ระดับเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่สำคัญขององค์กรในปัจจุบันที่จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น ความร่วมมือกับเทนเซ็นต์ใน ในครั้งนี้ เราจึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมช่วยยกระดับการให้บริการด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะในประเทศไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น”
“ตลอดเวลากว่า 18 ปี บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกระดับตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ รวมไปถึงหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจต่างๆ จนถึงองค์กรขนาดกลาง และกลุ่มสตาร์ทอัพ โดยในปัจจุบัน อัฟวาแลนท์มีลูกค้า และพันธมิตรอยู่ในหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ซึ่งความร่วมมือกับเทนเซ็นต์ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้งสององค์กรเติบโตไปด้วยกันในตลาดระดับอาเซียน” นายอัครพล กล่าวทิ้งท้าย