วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ครบรอบหนึ่งปีไอพีโอ เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งบนพันธกิจสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า


เผยโฉม เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ แนวคิดใหม่ กับไฮไลท์สำคัญ “เรือสิริมหรรณพ” พร้อมเดินหน้าผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งนานาชาติครบวงจรของภูมิภาคผ่าน “AEC Trade Center Pantip Pratunam” และประกาศลงนามความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาการค้าการลงทุน และรัฐวิสาหกิจของจีน





แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เฉลิมฉลองครบรองหนึ่งปีของการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรกหรือไอพีโอ กับเส้นทางเดินหน้าอย่างแข็งแร่งด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า (Building a Better Future) ด้วยการลงทุน สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งแผนการพัฒนาโรงแรมใหม่ ๆ และปรับปรุงโรงแรมเดิมภายใต้ความร่วมมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก การพัฒนาแพล็ตฟอร์ม Omni Channel ในธุรกิจค้าปลีกเชื่อมโยงประสบการณ์ในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการค้าทั้งภาครัฐและเอกชนระดับชาติของจีน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติของอาเซียนครบวงจร รวมทั้งส่งเสริมธุรกิจนำเข้าส่งออกของไทย และเปิดตัวเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โฉมใหม่ กับปรากฏการณ์ใหม่สุดยิ่งใหญ่ ด้วย “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา ที่ปลุกความมีชีวิตชีวาริมน้ำเจ้าพระยาอีกครั้งในฐานะสุดยอดจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ของทั้งคนไทยและพร้อมรับการท่องเที่ยวระดับโลก

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “เราได้เดินทางมาครบรอบหนึ่งปีนับจากการประกาศแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรกหรือไอพีโอ ช่วงเวลาที่ผ่านมา AWC ได้ดำเนินงานต่าง ๆ ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตภายใต้ปรัชญา “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ทั้งด้านการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท การขยายเครือข่ายพันธมิตรในธุรกิจต่าง ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ยกระดับภาคการท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าและสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ของไทย ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตลอดจนการดูแลพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจของเราทั้งผู้เช่า คู่ค้า ลูกค้า สังคมและชุมชน”

ธุรกิจรีเทล

นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นเรื่องสุขอนามัยตามมาตรฐานวิถีชีวิตใหม่ และยกระดับประสบการณ์ในเรื่องของการกินดื่ม การท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจให้เหนือชั้นมากขึ้น AWC ยังพัฒนาแพล็ตฟอร์ม Omni Channel ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดใหม่ที่ผสมผสานช่องทางการสื่อสารทั้งออน์ไลน์ (Online) และการขายหน้าร้าน (Offline) เพื่อสร้างประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยที่ไร้รอยต่อ สะดวกและรวดเร็ว สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบัน โดยได้มีการร่วมมือกับแพลตฟอร์มการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกมาช่วยเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายของแต่ละโครงการ รวมถึงวางแผนในการสร้างแพลตฟอร์ม E-Commerce ในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการของ AWC และพันธมิตร ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทและแอปพลิเคชันอย่าง AWC Connext ในอนาคตอีกด้วย

พร้อมทั้งเผยโฉม เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ยกระดับให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในหลากหลายมิติของลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยองค์ประกอบและบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า ด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Heritage Alive” ต่อยอดการอนุรักษ์หลักฐานอิงประวัติศาสตร์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของที่ตั้งของเอเชียทีคในฐานะพื้นที่เก่าแก่บนถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของกรุงเทพฯย่านสำคัญทางเศรษฐกิจ และเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีสามองค์ประกอบสำคัญที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ คือ “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา “Living Museum & Art Festival” สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ใช้วิธีการนำเสนอด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัย และดื่มด่ำกับผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบที่จัดแสดงตามโซนต่างๆ และ “New Mega Riverside F&B Destination” สวรรค์ของการกินดื่มที่ครบรส ตอบโจทย์ทุกสไตล์และความชอบของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

ธุรกิจโรงแรม 

ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา AWC ได้ลงนามความร่วมมือกับผู้บริหารโรงแรมระดับโลกต่าง ๆ เช่น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป รวมทั้งเปิดโรงแรมใหม่กับ มีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และบันยันทรี โดยในปีนี้ AWC มีทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น 18 โครงการ (จาก 14 โครงการในปีที่แล้ว) ด้วยจำนวนห้องรวมทั้งสิ้นกว่า 4,941 ห้อง ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศไทย ตลอดจนลงนามความร่วมมือกับ Adrian Smith + Gordon Gill Architecture (AS+GG) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก เพื่อร่วมพัฒนาแลนด์มาร์คสถาปัตยกรรมอาคารสูงระดับไอคอนแห่งใหม่ของไทยที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ นอกจากนี้ AWC ยังได้ริเริ่มแนวคิดใหม่ในการนำบริการอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมจากโรงแรมชั้นนำมาให้บริการนอกโรงแรมเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค นำบริการห้องอาหารและบาร์เครื่องดื่มมาเสิร์ฟภายใต้บรรยากาศที่เหนือระดับบนเรือสิริมหรรณพ ซึ่งเทียบท่า ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

ธุรกิจอาคารสำนักงาน

AWC มีแผนการพัฒนาอาคารสำนักงานในเครืออย่างต่อเนื่อง ให้รองรับการใช้ชีวิตของคนทำงานยุคปัจจุบัน ทั้งการทำงานและการพักผ่อนหย่อนใจ โดยอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์อยู่ระหว่างการพัฒนาสร้างจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์แบบรูฟท๊อป (Rooftop Destination) ใจกลางถนนสาทร

นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวแพ็กเกจ AWC INFINITE LIFESTYLE รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถี New Normal มอบประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจไร้ขีดจำกัด ด้วยความอิสระและยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตทั้งการทำงานและการพักผ่อนแบบ “Work from Anywhere” ที่รวบรวม “ออฟฟิศ - บ้าน - โรงแรม - ศูนย์การค้า” ไว้ในที่เดียวกัน ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องสุขอนามัย ความปลอดภัย และคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากทุกโครงการในเครือ AWC ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ที่ตั้งในศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวชั้นนำทั่วประเทศ

ธุรกิจพื้นที่ค้าส่ง

สำหรับกลุ่มธุรกิจพัฒนาพื้นที่ค้าส่ง AWC มีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งนานาชาติขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงการส่งออกและนำเข้าสินค้าของภูมิภาคผ่านโครงการ “AEC Trade Center Pantip Pratunam” ศูนย์กลางการค้าส่งครบวงจรใจกลางเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตร.ม. ของพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ 

AEC Trade Center Pantip Pratunam จะเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ส่งออก ผู้ผลิต และผู้นำเข้าสินค้า เข้าใช้โดยไม่คิดค่าบริการเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในการขยายช่องทางการค้าส่งในประเทศไทย และเชื่อมโยงผู้ประกอบการค้าส่งไทยกับตลาดค้าส่งนานาชาติในอนาคต อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกต่างๆ และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถจัดหาสินค้าหลากหลาย เช่น สินค้ากลุ่มเวลเนส (Wellness) เคหะภัณฑ์ (Houseware) อุปกรณ์ตกแต่งภายใน อาหาร เครื่องปรุง และของเล่น ได้ครบจบในที่เดียวแบบ “One Stop Shopping” ในราคาต้นทาง 

และในวันนี้ AWC ยังได้ประกาศลงนามในความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาการค้าและการลงทุนและรัฐวิสาหกิจของจีน 4 องค์กร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ AEC Trade Center Pantip Pratunam และผลักดันให้ AEC Trade Center เป็นโครงการแฟล็กชิพสำหรับการค้าส่งในการส่งเสริมการส่งออกและนำเข้าเพื่อสร้างให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งของภูมิภาคอย่างแท้จริง

การลงนามความร่วมมือกับองค์กรด้านการค้าการลงทุนระดับชาติของจีน 2 ฉบับ

  • การลงนามกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเชื่อมโยงตลาดจีนและอาเซียนแบบครบวงจรผ่าน AEC Trade Center เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งของภูมิภาค และเสริมความแข็งแกร่งให้ AEC Trade Center เป็นศูนย์รวมผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าส่งระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ด้วยการสนับสนุนทางด้านความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ และเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าที่สำคัญในประเทศจีน เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกกับประเทศจีน และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตได้ในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้าของภูมิภาค (Sourcing hub of the region) เพื่อตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้กระจายสินค้า และผู้ประกอบการที่สามารถหาสินค้าหลายหลาย ครบครัน ในราคาต้นทาง พร้อมเครือข่ายออนไลน์เพื่อการค้า เปรียบเทียบราคา และการจัดส่ง แบบครบวงจร

    การลงนามครั้งสำคัญนี้เป็นความร่วมมือกับ 3 พันธมิตรสมาคมพัฒนาการค้าการลงทุนของจีน ประกอบด้วย สมาคมผู้ส่งสินค้าแห่งประเทศจีน (China Shippers’ Association), สมาคมการลงทุนแห่งประเทศจีน (Emerging Industry Center of Investment Association of China) และสมาพันธ์ธุรกิจภายใต้นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและเขตการค้าเสรี (Belt & Road Investment and Free Trade Alliance: B&R IFTA)
  • การลงนามความร่วมมือกับ Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd. (CCC Group) รัฐวิสาหกิจผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู (Yiwu) ประเทศจีน ในโครงการนำร่อง AEC Trade Center Pantip Pratunam ที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ด้วยการจัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าคุณภาพคัดสรร “Yiwu Selection Thailand Showcase” และศูนย์ให้บริการด้านการส่งออกไปยังประเทศจีน “IC Mall” เพื่อช่วยเชื่อมโยงช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ส่งออกไทยที่ต้องการจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน 

ผู้ประกอบการค้าส่งที่สนใจร่วมโครงการ AEC Trade Center Pantip Pratunam สามารถติดต่อโครงการโดยตรงได้ที่โทร. 02-254-9797 หรือ 081-805-7247

“สำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต AWC ให้ความสำคัญในเรื่องของ Customer Centric ซึ่งยึดเอาความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสอดคล้องกับเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์แบบ เรายังคงเดินหน้าตามแผนพัฒนาโครงการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นำเอาจุดแข็งของพอร์ทโฟลิโอที่หลากหลายทั้งในด้านกลุ่มธุรกิจและที่ตั้งโครงการมาใช้ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ให้กับกลุ่มลูกค้าต่างๆ อย่างครบวงจรด้วยบริการรูปแบบใหม่ “AWC INFINITE LIFESTYLE” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ทั้งการทำงาน ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยแพคเกจ และโปรโมชั่นที่เราสร้างสรรค์ขึ้นได้ตามที่ต้องการ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับบริษัท พนักงาน ลูกค้า นักลงทุน ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสู่เป้าหมายการเป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ก้าวหน้าและเติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน” นางวัลลภากล่าว