ผู้ฉ้อโกงได้เปลี่ยนการมุ่งเน้นไปใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในกลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงของบรรดาผู้ค้า ซึ่งคุกคามตลาดที่มีมูลค่ากว่า 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก
นิวยอร์ค นครนิวยอร์ก - (BUSINESS WIRE) - Forter ผู้นำในด้านการป้องกันการฉ้อโกงอีคอมเมิร์ซ ประกาศการเปิดตัว Fraud Attack Index รุ่นที่เจ็ดของบริษัทในวันนี้ รายงานนี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของธุรกิจออนไลน์ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
Fraud Attack Index ฉบับล่าสุดระบุว่าการฉ้อโกงได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบมากกว่าแค่จุดการทำธุรกรรม โดยยังมีการส่งผลกระทบต่อบัญชีต่างๆ เช่น Loyalty Program และการละเมิดนโยบายการส่งคืน การฉ้อโกงในโปรแกรมแรงจูงใจนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 89% ปีต่อปี ในขณะที่จำนวนเม็ดเงินดอลลาร์ทั้งหมดในการฉ้อโกงทางออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 12% ปีต่อปี
“กำลังเกิดเทรนด์ใหม่ที่ชัดเจนในการฉ้อโกงทางออนไลน์” Michael Reitblat ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Forter กล่าว “อุตสาหกรรมในภาพรวมมีการทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงในการชำระเงินที่จุดทำธุรกรรม สิ่งนี้จะกำจัดพวกมือใหม่ออกไป เราจึงพบว่าตอนนี้ผู้ฉ้อโกงได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายการดำเนินการใน Customer Journey เร็วขึ้น ซึ่งทำให้เข้าถึงบัญชีต่างๆ ของลูกค้าได้”
Fraud Attack Index แสดงให้เห็นว่าผู้ฉ้อโกงมีอัตราการประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมากในการโจมตีเพื่อเข้ายึดบัญชี (ATO) บุคคลกว่า 1.5 ล้านรายที่บัญชีถูกโจมตีจนเกิดความเสี่ยง ได้มีผู้เปิดบัญชีเพิ่มเติมโดยใช้ชื่อของพวกเขา ผู้ฉ้อโกงจะโอนเงินทุนไปยังบัญชีเหล่านี้จากบัญชีต่างๆ ที่ถูกกฎหมายของเหยื่อ ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากจุดสูงสุดก่อนหน้า
“เทรนด์ที่สอง” Reitblat กล่าวต่อ “แสดงให้เห็นว่าผู้ฉ้อโกงกำลังกระจายทรัพย์สินไปยังสกุลเงินที่อ่อนลง ซึ่งไม่ใช่สกุลเงินหลักในอุตสาหกรรมการเงิน และได้มีการดำเนินการมากกว่าการฉ้อโกงบัตรเครดิต โดยได้มีความเคลื่อนไหวในด้านอื่นๆ เช่น การฉ้อโกงบัญชีโปรแกรมแรงจูงใจ และการละเมิดนโยบาย”
โดยใช้ประโยชน์จากไซโลที่แยกการปฏิบัติงานของบริษัทที่มีหน้าร้านจริงและการปฏิบัติงานทางออนไลน์ออกจากกัน การฉ้อโกงการซื้อทางออนไลน์และส่งคืนที่ร้านค้า (BORIS) เพิ่มขึ้น 23% และการซื้อออนไลน์จากนั้นมารับที่ร้าน (BOPIS) ก็เพิ่มขึ้น 23% เช่นกัน นอกจากนั้น การละเมิดคูปองก็เพิ่มขึ้นเป็น 10%
“วันนี้ Customer Journey ได้กลายเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้นเพราะลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในจุดสัมผัสบริการที่หลากหลายเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้ประสบการณ์แบบหลายช่องทางที่แท้จริง” Jordan McKee ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ 451 Research กล่าว “ข้อมูลใน Fraud Attack Index ฉบับล่าสุดเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมื่อการชำระเงินทั่วโลกและระบบอีคอมเมิร์ซได้มีการเปลี่ยนแปลง อาชญากรรมออนไลน์ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อการฉ้อโกงเปลี่ยนแปลงไปยังจุดที่อ่อนแอกว่าในระบบ ผู้ค้าจึงต้องขยายการเอาใจใส่เพื่อป้องกันร้านค้าและลูกค้าในจุดสัมผัสบริการทั้งหมดด้วยเช่นกัน”
“ผู้ค้าต้องตอบสนองโดยปรับใช้แนวทางในการประเมินสถานการณ์ที่มีความต่อเนื่องและปฏิบัติงานได้ด้วยตัวเองใน Customer Journey ทั้งหมด” Reitblat กล่าว “การมุ่งเน้นไปที่การฉ้อโกงการขอคืนยอดชำระและบัตรเครดิตที่จุดทำธุรกรรมไม่เพียงพออีกต่อไป แพล็ตฟอร์มการป้องการการฉ้อโกงแบบบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นที่จะช่วยให้ผู้ค้าแก้ปัญหาการฉ้อโกงได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำในทั่วทั้ง Customer Journey”
เกี่ยวกับ Forter
Forter คือผู้นำในด้านการป้องกันการฉ้อโกงในอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปกป้องธุรกรรมการค้าทางออนไลน์กว่า 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐให้กับลูกค้ากว่า 500 ล้านรายทั่วโลกจากการฉ้อโกงบัตรเครดิต การเข้ายึดบัญชี การขโมยข้อมูลประจำตัว และอื่นๆ โซลูชั่นการป้องกันการฉ้อโกงที่ใช้ข้อมูลประจำตัวของบริษัทจะตรวจจับกิจกรรมการฉ้อโกงในเวลาจริง ในประสบการณ์ของลูกค้าทางออนไลน์ทั้งหมด
แพล็ตฟอร์มการป้องการการฉ้อโกงแบบบูรณาการของ Forter จัดทำโดย Global Merchant Network ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยการฉ้อโกงเชิงพยากรณ์และการจำลองแบบ และความสามารถในการจัดทำแพล็ตฟอร์มตามความต้องการแบบเจาะจงสำหรับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ Forter จึงเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Fortune 500 ต่างๆ ในการนำเสนอความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น และช่วยยกระดับการขายด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
Forter มีเงินทุนเป็นจำนวน 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจากกลุ่มการร่วมทุนทางธุรกิจชั้นแนวหน้า ซึ่งรวมถึง Sequoia, NEA และ Salesforce