วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เริ่มแล้ว! InterCare Asia 2019 ศูนย์รวมสินค้า-นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ มั่นใจเงินสะพัดกว่า 700 ล้านบาท




“นีโอ” จัดงาน InterCare Asia 2019 งานแสดงสินค้า เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุระดับนานาชาติ ครั้งที่ 4 รับกระแสสังคมวัยเกษียณ หลังตลาดบริการผู้สูงวัยโตต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 107,000 ล้านบาท คาดปี 62 ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 10 % มั่นใจตลอดการจัดงาน 3 วัน จะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 5,000 คน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) กล่าวว่า การจัดงาน InterCare Asia 2019 ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 4 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2562 ณ HALL 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เพื่อเตรียมรับมือกับการวางแผนชีวิตก่อนวัยเกษียณ และพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรภายในประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าในปี 2574 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด คือ มีผู้สูงอายุมากกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด นับเป็นความท้าท้ายอย่างมากกับสถานการณ์สังคมสูงวัยที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ ด้าน อาทิ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ และจากการประเมินตลาดธุรกิจบริการผู้สูงอายุที่ผ่านมาพบว่า มีการเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ประมาณ 107,000 ล้านบาท คาดปี 2562 จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 10% 

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 5 โซน ได้แก่ 1. Homecare & Equipment อาทิ เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการดูแลความปลอดภัยของผู้สูงอายุ อุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนที่ รถเข็น วีลแชร์ 2. Rehabilitation หรืออุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการดูแลช่วยเหลือ การป้องกัน การดูแลความปลอดภัย และเครื่องมือฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย ศูนย์กระดูกและข้อ เครื่องช่วยฟัง 3. Medical Tourism การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา ฟิตเนส และสถานบริการนวดแผนไทย 4. Services การให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ พร้อมรับคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการใช้ชีวิตในวัยชราจากโรงพยาบาลหรือคลินิกในการดูแลสุขภาพ รวมถึงสินค้าและบริการสำหรับดูแล ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยหรือผู้พิการ เช่น เนอร์สซิ่งโฮม โฮมแคร์หรือโรงพยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และ5. Nutritional Food สินค้า อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารออร์แกนิค อาหารสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ เป็นต้น โดยมีหน่วยงาน และผู้ประกอบการร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 230 บูธ และคาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 3 วัน จะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 5,000 คน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท

“ภายในงานเราได้นำสินค้าและบริการของกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตตามความต้องการของผู้สูงอายุมาจัดแสดง อาทิ อาหารเพื่อสุขภาพ เช่น อาหารที่มีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลน้อยหรือไม่มีเลย และมีส่วนประกอบที่ป้องกัน ลดความเสี่ยงโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน รวมถึงสามารถย่อยได้ง่ายเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว เป็นต้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพ และวิถีการดำเนินชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุที่สภาพร่างกายเริ่มถดถอยด้วย และเทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุโดยเฉพาะ พร้อมทั้งจัดเสวนานำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการวางแผนชีวิตของการเป็นผู้สูงอายุให้มีความสุขอย่างยั่งยืน รวมทั้งกิจกรรม Business Matching การจับคู่ทางธุรกิจเพื่อช่วยต่อยอดในการทำธุรกิจ อีกทั้งยังได้เปิดพื้นที่จัดหางานสำหรับผู้สูงอายุที่อยากมีอาชีพหลังวัยเกษียณ โดยกรมการจัดหางานอีกด้วย” นายศักดิ์ชัย กล่าว

นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานสายงานส่งเสริมการค้าการลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นถึงความสำคัญของตลาดผู้สูงอายุ ที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ และผู้ประกอบการทั่วไป เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงาน โดยเชื่อว่าการจัดแสดงสินค้า เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุนี้ จะเป็นช่องทางและโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและสามารถพัฒนาธุรกิจในตลาดผู้สูงอายุได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ภายในงานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังได้เชิญสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มาเสวนาวิชาการในหัวข้อ “อาหารสำหรับผู้สูงอายุ (Aging Food)” เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริโภค และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในด้านอาหารแก่กลุ่มผู้สูงอายุซึ่งตอบสนองต่อการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ในปัจจุบันด้วย

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับคุณภาพมากขึ้นในโครงการ Thailand Premium ซึ่งการร่วมสนับสนุนการจัดงาน InterCare Asia 2019 ในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการปลุกกระแสการท่องเที่ยวของกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีการใช้จ่ายเงินสำหรับการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง นอกจากนี้การสนับสนุนการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้สูงอายุได้ท่องเที่ยวอย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาคที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้สูงวัยให้เป็นทางเลือกใหม่ในการพักผ่อนช่วงวัยเกษียณ ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจกระจายรายได้เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ และการเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียมนี้ก็เพื่อลดการพึ่งพิงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย




 คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย