วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

วิทยาศาสตร์ฯ มธ. โชว์ “เมโลดี้ เฟรช” นวัตกรรมสเปรย์ยืดพวงมาลัย ฉ่ำนาน 14 วัน ตอบโจทย์เทศกาลทางศาสนา เตรียมต่อยอดส่งเสริมธุรกิจดอกไม้


  • นวัตกรรม “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” สเปรย์ธรรมชาติยืดอายุพวงมาลัยจากสารเคลือบจากกากรำข้าว” ผลงานชิ้นโบแดงนักศึกษา คณะวิทย์ฯ มธ. สาขาวิชาเคมี ย้ำไอเดีย “SCI+BUSINESS” แก้ปัญหาธุรกิจการันตีผลงานด้วยการกวาดรางวัลมากมายการประกวดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์จากหลากหลายเวทีทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โดยทีมนักศึกษาและอาจารย์สาขาวิชาเคมี โชว์ผลงาน “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” นวัตกรรมสเปรย์จากสารเคลือบมหัศจรรย์จากกากรำข้าว ยืดอายุดอกไม้ ผลไม้ รวมถึงผลผลิตทางการเกษตร ให้คงสภาพสดใหม่ สวยงามต้านกาลเวลา โดยพัฒนามาจากการนำกากรำข้าวที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตน้ำมันรำข้าว มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติในการช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ ผลไม้ หรือพืชผักต่าง ๆ ให้ยังคงความสดใหม่ ชะลออายุของผลิตผลให้เน่าเสียช้าลงได้ยาวนานถึง 14 วัน สามารถใช้ได้ทั้งรูปแบบทา ชุบ หรือฉีด และปล่อยทิ้งให้แห้งประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะไม่ทิ้งสารตกค้างในผลผลิต ตอบโจทย์เรื่องปัญหาการเน่าเสียของผลผลิตของภาคการเกษตรที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออก นอกจากนี้นวัตกรรมดังกล่าวยังช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วไปให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ใช้เคลือบพวงมาลัยดอกไม้ที่ใช้ไหว้พระ หรือดอกไม้ที่ใช้มอบเป็นของขวัญในช่วงโอกาสสำคัญต่างๆ ตลอดจนพืชผักผลไม้ที่ต้องการให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้นวัตกรรมดังกล่าวได้จดอนุสิทธิบัตร และพร้อมถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ต่อไป

นางสาวพรรณวดี จันทร์ทอง นักศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเคมี กล่าวว่า สำหรับ “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” เป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยยืดอายุดอกไม้ ผลไม้สด และผลผลิตทางการเกษตร ได้ยาวนานมากกว่า 14 วัน โดยพัฒนาและต่อยอดมาจากกากรำข้าวที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตน้ำมันรำข้าว ซึ่งสารเคลือบดังกล่าวนี้มี ส่วนผสมหลักคือผลึกนาโนเซลลูโลส (Nanocellulose) ที่สกัดมาจากกากรำข้าว มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ ผลไม้ หรือผักต่าง ๆ ให้ยังคงความสดใหม่ ช่วยชะลออายุของผลิตผลให้เน่าเสียช้าลงได้ 

สำหรับขั้นตอนกรรมวิธีการผลิต เริ่มจากการสกัดผลึกนาโนเซลลูโลสจากกากรำข้าว ซึ่งเป็นการนำของเสียที่เกิดจากกระบวนการสีข้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จากนั้นเป็นการเพิ่มคุณค่าของผลึกนาโนเซลลูโลส (Nanocellulose) ด้วยการนำมาทำสารเคลือบโดยให้อยู่ในรูปของระบบอิมัลชั่น (emulsion) ที่สามารถควบคุมความชื้น การแลกเปลี่ยนก๊าซต่าง ๆ และการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งส่งผลต่อการยืดอายุผลไม้หรือดอกไม้ ลดอัตราการเกิดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์จากการหายใจ จึงช่วยรักษาคงสภาพของผลผลิตได้เป็นอย่างดี ส่วนวิธีการใช้สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายในรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การทา ชุบ หรือฉีด และปล่อยทิ้งให้แห้งประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะไม่ทิ้งสารตกค้างในผลผลิต โดยปริมาณสารขนาด 100 มิลลิลิตร สามารถใช้ทาผลไม้ ยกตัวอย่างเช่น ผลกล้วยหอมดิบ ได้ถึง 25-30 ลูก เป็นต้น นอกจากนี้ผู้บริโภคทั่วไปให้สามารถนำสารดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ใช้เคลือบดอกไม้ที่ใช้ไหว้พระ หรือดอกไม้ที่ใช้มอบเป็นของขวัญในช่วงโอกาสสำคัญต่าง ๆ ให้ดูสดใหม่ เหี่ยวเฉาช้าลง ตลอดจนพืชผักผลไม้ที่ต้องการให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกว่าปกติได้อีกด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” เป็นผลงานวิจัยร่วมกับ นางสาวธมนวรรณ อังกุรทิพากร นักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิชาเคมี โดยมี รศ.ดร.จิรดา สิงขรรัตน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเคมี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ปัจจุบันนวัตกรรมดังกล่าวได้จดอนุสิทธิบัตร และพร้อมถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ต่อไป นางสาวพรรณวดี กล่าวทิ้งท้าย

รศ.ปกรณ์ เสริมสุข รักษาการแทนในตำแหน่งคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. กล่าวว่า อย่างที่ทุกคนทราบกันดีกว่าประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรม มีผลผลิต ไม่ว่าจะเป็น พืช ผัก และผลไม้สด เป็นสินค้าที่ใช้บริโภครวมถึงยังส่งออกที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล แต่จากข้อจำกัดของผลผลิตส่วนใหญ่เหล่านี้ คือจะมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวสั้น ไม่สามารถเก็บรักษาได้นาน จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตที่ส่งผลกระทบต่อการบริโภครวมถึงการส่งออกเป็นอย่างมาก ซึ่ง “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” นวัตกรรมสเปรย์จากสารเคลือบมหัศจรรย์จากกากรำข้าว ชิ้นนี้ ถือเป็นหนึ่งในผลงานการประดิษฐ์ของนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ.ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ซึ่งการคิดค้นนวัตกรรมเหล่านี้ สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ของคณะวิทย์ฯ ที่ต้องการมุ่งเน้นผลิตและบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ให้กล้าคิด กล้าพัฒนานวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ และไม่ปิดกั้นศักยภาพ ผ่านการเรียนการสอนแบบ SCI+BUSINESS ที่เน้นการผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ กับแนวคิดของผู้ประกอบการ (Entrepreneurial mindset) เข้าด้วยกัน จนสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีศักยภาพในการต่อยอดเป็นธุรกิจหรือแก้ปัญหาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้าน พระสุวิมลธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กล่าวว่า หากพูดถึงการใช้ดอกไม้ในสังคมไทย นอกจากการนำดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มาใช้ประกอบอาหาร การนำดอกไม้จากธรรมชาติมาประดิษฐ์ถักร้อยเป็นเครื่องตกแต่งต่างๆ แล้วนั้น ยังจะได้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของดอกไม้กับคติความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนาของผู้คนที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระพุทธศาสนาซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในสังคมไทยให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ต่างพากันเข้าวัดทำบุญ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเอง นอกจากอาหาร หรือเครื่องสังฆทานที่นำมาถวายพระแล้ว ยังมีดอกไม้ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะดอกไม้เป็นเครื่องหมายแห่งความสดชื่นแจ่มใส และรุ่งเรือง ซึ่งการที่นำดอกไม้ไปบูชาพระหรือถวายพระนั้น มีความเชื่อว่า ดอกไม้ที่เลือกใช้บูชาพระ จะต้องเป็นดอกไม้ที่สดใหม่ และสวยงาม จึงต้องมีความพิถีพิถันในการเลือกดอกที่งดงามเป็นพิเศษเพื่อมาถวายหรือบูชา เพื่อที่จะช่วยให้ชีวิตเราสวยงามตามไปด้วยดั่งดอกไม้ หากเลือกดอกไม้ที่เหี่ยวเฉามา ชีวิตก็โรยราตามดอกไม้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงได้เห็นการเลือกใช้ดอกไม้สดใหม่ในการไหว้หรือถวายพระมาตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน

และเนื่องด้วยในวันอาสาฬหบูชาปี 2562 ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม นอกจากพิธีกรรมโดยทั่วไปที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายนิยมกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็น การทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา และสวดมนต์แล้วนั้น พุทธศาสนิกชนควรตระหนักถึงหัวใจสำคัญจากวันอาสาฬหบูชา ด้วยการทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนอยู่เสมอ รวมถึงควรปฏิบัติตนตามหลักธรรมในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อันได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติสายกลาง คือ อริยมรรค 8 อันสรุปได้ว่า ควรปฏิบัติตนให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดจนอย่าลืมการละชั่ว ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ์ด้วยการตั้งกุศลจิตในการคิดดี ทำดี พูดดี การทำความดีให้เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน ไม่จำเป็นต้องเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น

สำหรับผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจนวัตกรรม “เมโลดี้ เฟรช” (Melody Fresh) หรือ “สารเคลือบจากกากรำข้าว” สามารถขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ สาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. 0-2564-4440-59 ต่อ 2409 หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ.ศูนย์รังสิตโทรศัพท์ 0-2564-4440 ต่อ 2002, 2020, 2045 เว็บไซต์ www.sci.tu.ac.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/ScienceThammasat 



 * ดูอัลบั้มภาพได้ ที่นี่