สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดงานสัมมนา “การเปรียบเทียบคุณวุฒิวิชาชีพและสมรรถนะเพื่อนำไปสู่การยอมรับประกาศนียบัตรโดยผู้ประกอบการ ” เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดการเคลื่อนย้ายกำลังคนของไทยให้สามารถไปทำงานในประเทศของสมาชิกอาเซียนได้ โดยมีวิทยากรจากประเทศฮ่องกง และอินโดนีเซีย มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในวิชาชีพการดูแลผู้สูงอายุ และอาชีพสปา เป็นครั้งแรก
นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “การเปรียบเทียบคุณวุฒิวิชาชีพและสมรรถนะเพื่อนำไปสู่การยอมรับประกาศนียบัตรโดยผู้ประกอบการ” ว่า นอกจากความร่วมมือในการจัดสัมมนาครั้งนี้แล้ว เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบาย Thailand 4.0 ในการพัฒนาสมรรถนะและทักษะวิชาชีพคนไทยและเคลื่อนย้ายกำลังคนในระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ล่าสุด สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา จัดทำโครงการ “การเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติและกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน” เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดการเคลื่อนย้ายกำลังคนของประเทศไทยสามารถไปทำงานในต่างประเทศของสมาชิกอาเซียนได้ โดยเฉพาะอาชีพสปา และอาชีพการดูแลผู้สูงอายุได้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและแนวทางในการเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิวิชาชีพของไทยกับประเทศฮ่องกงและอินโดนีเซีย ซึ่งมีตัวแทนจาก 2 ประเทศดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเทียบเคียงมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพสาขาสปา และสาขาดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดความเป็นไปได้ในการที่ประเทศไทยจะเทียบเคียงกับ 2 ประเทศนี้ต่อไป
นายวีระชัย ศรีขจร ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ( สคช. ) กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเชิญตัวแทนจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน คือ ฮ่องกง และอินโดนีเซีย มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และดูความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะเทียบเคียงมาตรฐานกรอบคุณวุฒิกับทั้ง 2 ประเทศนี้ ในส่วนของฮ่องกงได้นำร่องเทียบเคียงคุณวุฒิกับนิวซีแลนด์ และยุโรปไปก่อนหน้านี้ในสาขาวิชาชีพการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสังคมไทยก็กำลังก้าวสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบวิชาชีพนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ และหากเราสามารถเทียบเคียงมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพนี้กับฮ่องกงได้ ก็จะช่วยยกระดับมาตรฐานอาชีพ และเป็นการขยายโอกาสในการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างกันได้มากขึ้น
มร.โบนาร์โด อัลโด โทบิง ผู้ทรงคุณวุฒิจาก BNSP อินโดนีเซีย กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดธุรกิจสปาในไทยมีการเติบโตอย่างมาก ในขณะที่จำนวนเจ้าหน้าที่ด้านสปายังไม่เพียงพอ การที่ไทยจะเทียบเคียงกรอบมาตรฐานคุณวุฒิกับอินโดนีเซียที่มีความเชี่ยวชาญด้านสปาจึงเป็นเรื่องที่ดี แม้ว่าสภาพภูมิประเทศและสังคมจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค การเชื่อมโยงด้านการศึกษาและอาชีพที่เทียบเคียงกันได้ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียจะเป็นการเปิดโอกาสให้แรงงานของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางไปทำงานระหว่างกันได้ ก็จะแก้ปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่สปาให้เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินงานด้านการพัฒนากำลังคนในมิติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพในสาขาวิชาชีพต่างๆ ที่สอดคล้องตามนโยบาย Thailand 4.0 เป็นจำนวน 44 สาขาวิชาชีพ 481 อาชีพ การจัดตั้งองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรรับรองฯที่สามารถรองรับการประเมินคุณวุฒิวิชาชีพ 144
คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย
