วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

อวาย่าเปิดตัวบริการ Digital Transformation-as-a-Service สำหรับองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ณ งานอวาย่าเทคโนโลยีฟอรั่ม (ATF) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ


SmartDXaaS แนวคิดเอกลักษณ์ของอวาย่าที่ช่วยให้ธุรกิจก้าวข้ามผ่านความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันยังช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิตอล พบกับ “Smart City” ที่เสร็จสมบูรณ์แห่งแรกภายในงานนี้




กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย: อวาย่า ผู้นำระดับโลกทางด้านซอฟต์แวร์การสื่อสารทางธุรกิจระบบและบริการเปิดตัวแนวคิดการให้บริการการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิตอล (Digital Transformation-as-a-Service หรือ SmartDXaas) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในการบรรยายที่งานประชุมประจำปี Avaya Technology Forum ซึ่งจัดที่กรุงเทพฯ เป็นที่แรกของโลก ตามด้วยดูไบ ไอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารระดับสูงของอวาย่าจะนำทัพโซลูชั่นที่อิงระบบคลาวด์มากมาย และการให้บริการแบบมืออาชีพ มาจัดแสดงภายในงาน เพื่อช่วยให้องค์กรในประเทศไทยบรรลุเป้าประสงค์ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิตอล บริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยรูปแบบ “as-a-service”

ในช่วงวันแรกของการเปิดงาน อวาย่ายังได้แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเปลี่ยนผ่านของบริษัทไปสู่การเป็นบริษัททางด้านซอฟต์แวร์และการให้บริการ ผู้บริหารระดับสูงของอวาย่ากล่าวว่า เรามองเห็นถึงความต้องการที่หนักแน่นทางด้านโซลูชั่นที่อิงรูปแบบ OPEX ด้วยธุรกิจที่บริหารจัดการงานบริการแบบครบวงจร (managed services) ซึ่งเติบโตในระดับปีต่อปีที่ 16% เมื่อองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์มองหาโซลูชั่นบนระบบคลาวด์ที่สามารถปรับแต่งได้ สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณนี้ 73% ของรายได้ของอวาย่ามาจากซอฟต์แวร์และบริการ โดยครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดมาจากเทคโนโลยีใหม่ที่เปิดใช้งานบนระบบคลาวด์

นิดาล อาบู-เทฟ ประธานกรรมการ ภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลาง & แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิคของ อวาย่ากล่าวว่า “ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกำลังเผชิญกับความท้าทายเป็นประวัติการณ์ของการวิวัฒนาการไปสู่ความเป็นดิจิตอล การตอบสนองต่อสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความท้าทายสูง และการมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าผู้ชื่นชอบดิจิตอลทั้งหลาย อวาย่าสามารถร่นระยะทางของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลสำหรับองค์กรทุกขนาด โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมือเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและโซลูชั่นของอวาย่า ซึ่งเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เหนือชั้น องค์กรสามารถควบคุมการเปลี่ยนผ่านนี้ไปได้และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างแท้จริง"

ในขณะที่ซีอีโอขององค์กรได้ยกประเด็นของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลเป็นหัวใจสำคัญของการวาง กลยุทธ์องค์กรของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น ความต้องการโซลูชั่นที่อิงระบบคลาวด์ในรูปแบบ “as a service” กำลังจะแซงหน้าการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีโดยรวม ในฐานะที่เป็นบริษัทเพียงหนึ่งเดียวที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารทางธุรกิจที่ซับซ้อน โดยพัฒนาบนแพลทฟอร์มซอฟต์แวร์บน มือถือแบบเปิด และสนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือข่ายที่แข็งแกร่ง อวาย่าคือตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดที่จะช่วยผลักดันกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลของลูกค้า

ที่งาน ATF 2016 ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำแบบใคร:

• รอบการบรรยายเทคนิคเชิงลึกและการพบปะกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการคัดสรรโดยนำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะสำหรับภาครัฐและภาคธุรกิจซึ่งการประยุกต์ใช้งานทำได้โดยง่ายและมีประสิทธิภาพ

• พบกับศูนย์กลางการให้บริการแก่ลูกค้าที่นำระบบการทำนายจากการวิเคราะห์และระบบการจำลองแบบอัจฉริยะเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าและพนักงานเชิงลึก ข้อมูลที่ทรงคุณค่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์แบบส่วนตัวที่แตกต่างกัน

• สถาปัตยกรรมระบบเครือข่าย Avaya SDN Fx Fabric Network – รายแรกของวงการที่มอบ “การเชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลา” ที่แสนง่ายดาย ช่วยให้ลูกค้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยสูง SDN Fx ช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับประสิทธิภาพของการสื่อสาร และประยุกต์ใช้แอพพลิเคชั่นการเปิดใช้งานระบบสื่อสารและบริการได้อย่างคล่องตัวทั่วทั้งเครือข่าย

ไมเคิล อาเรนเนตา ผู้อำนวยการฝ่ายให้คำปรึกษาและการวิจัย ไอดีซี ไฟแนนเชียลอินไซต์กล่าวว่า 

“ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่เกือบทั้งหมดในขณะนี้กำลังสร้างความท้าทายให้กับภาคธุรกิจและภาครัฐ ไม่ว่าทั้งสองภาคส่วนกำลังดำเนินการหรือกำลังเพิ่งจะเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอลก็ตาม ในขณะที่ไอดีซีคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายทางด้านไอทีทั่วโลกในปี 2559 จะชะลอตัวลง เวนเดอร์ที่ได้เปลี่ยนผ่านจากรูปแบบดั้งเดิมไปสู่การนำระบบที่เปิดใช้บนคลาวน์ได้ก่อนจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันได้รวดเร็วขึ้น และลดความกดดันให้กับลูกค้าในเรื่องของงบประมาณได้เป็นอย่างดี”

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่ไม่มีความแน่นอน พร้อมทั้งรับมือกับความ ท้าทายของอนาคต องค์กรจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่เชื่อถือได้ซึ่งจะช่วยให้เขาบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ไอดีซีระบุว่าภายในปี 2661 70% ของการริเริ่มที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิตอลแบบทำงานแยกส่วนกันจะประสบกับความล้มเหลวเนื่องมาจากการบูรณาการ การเชื่อมโยงระบบ การสรรหา หรือการบริหารโครงการที่ไม่สามารถสอดประสานกันได้ดีเพียงพอ นอกจากนี้ไอดีซียังคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 มากกว่า 30% ของไอทีเวนเดอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่สามารถอยู่รอดได้ภายใต้การทำงานในรูปแบบปัจจุบันของเขา ซึ่งทำให้ลูกค้าต้องจัดระเบียบระดับความสำคัญของเวนเดอร์ใหม่ (แหล่งข่าว: “IDC FutureScape: Worldwide Digital Transformation (DX) 2016 Predictions — APEJ Implications”)



คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย