หลังจากงานเปิดตัววูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ แบรนด์สเต็คเฮ้าส์ระดับไฮเอนด์ชื่อดังของโลก ณ โครงการ วัน แบงค็อก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทางร้านพร้อมยกระดับการให้บริการในรูปแบบ All Day Dining เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการลิ้มลองเมนูสุดพิเศษได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน โดยจะเปิดบริการทุกวันเวลา 11:30 น. ถึง 23:30 น. ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับการลิ้มรสอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เนื้อดรายเอจ ( Dry-Aged) อาหารทะเลพรีเมียม และ ของหวานชั้นเลิศอย่างเต็มอิ่ม
ในโอกาสนี้ทางร้านขอแนะนำเมนูใหม่ อย่าง แฮมเบอร์เกอร์ในรูปแบบดั้งเดิม (Classic Burger) แฮมเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นหนานุ่มจากเนื้อ USDA Prime Beef เกรดพรีเมียมจากสหรัฐอเมริกา เนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำและสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนในทุกคำที่รับประทาน วูฟแกงส์ สเต็คแซนวิช (Wolfgang’s Steak Sandwich) ขนมปังบาแก็ตร้อน ๆ เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อ USDA Dry-Aged Prime Striploin ที่หั่นอย่างประณีต โลโค โมโค่ (Loco Moco) เมนูอาหารจานข้าวที่เสิร์ฟเคียงคู่ไปกับเนื้อบดชิ้นโตพร้อมไข่ดาว และซอสครีมเห็ด สตูว์เนื้อ (Beef Stew with Vegetables) รสชาตินุ่มละมุนละลายในปากที่ไม่ควรพลาด ชุดซีฟูดสุดพิเศษ (Seafood Taster) เสิร์ฟล็อบสเตอร์สดๆจากรัฐเมน (Maine) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีเนื้อหวานกรอบ รสชาติหอมหวานจากท้องทะเล พร้อมด้วย กุ้งลายเสือขนาดใหญ่ (Giant Tiger Prawn) และ ทูน่าทาร์ทาร์ (Tuna Tartare) เสิร์ฟพร้อมเลม่อนเพิ่มความสดชื่น และ ซอสค็อกเทลวูฟแกงส์สูตรพิเศษ ผักสดจากท้องถิ่น (Locally-Sourced Vegetables) อาหารจานผักสดใหม่จากแหล่งปลูกท้องถิ่นตามฤดูกาล ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติที่สดชื่นและกรอบอร่อย แต่ยังช่วยเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหารอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สลัดผักรวม (Mixed Green Salad), สลัดทูน่า (Salad Nicoise), สลัดเนื้อย่าง (Grilled Steak Salad), สลัดกุ้งย่างกับอโวคาโด (Grilled Shrimp and Avocado Salad) และของหวานที่ไม่ควรพลาด คือ ชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กแบบดั้งเดิม (New York Style Cheesecake) แอปเปิ้ลสตรูเดิล (Apple Strudel) ทิรามิสุ (Tiramisu) เค้กช็อกโกแลตมูส (Chocolate Mousse Cake) เครมบรูเล่ (Crème Brûlée) พายพีแคน (Pecan Pie) และ ฮอตฟัดจ์ซันเดย์ (Hot Fudge Sundae)
นอกจากเมนู a la carte แล้ว ทางร้านมีบริการเซ็ตอาหารกลางวัน 2 คอร์สสุดพิเศษ ด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย วูฟแกงส์สลัด (Wolfgang’s Salad) ตามด้วยจานหลักให้คุณเลือกได้ ได้แก่ ฟิเลมิยอง USDA Prime Petit Filet Mignon (200 กรัม: 2,800 บาท) หรือ สเต็กสันนอกเนื้อดรายเอจ USDA Prime New York Sirloin (400 กรัม: 3,700 บาท) หรือ สเต็กช็อตลอยน์เนื้อดรายเอจ USDA Prime Dry Aged Porterhouse Steak (สำหรับ 2 ท่าน: 6,700 บาท | สำหรับ 3 ท่าน: 10,050 บาท | สำหรับ 4 ท่าน: 13,400 บาท) เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง มันฝรั่งบด และครีมผักโขม เข้ากับบรรยากาศมื้อเที่ยงสบาย ๆ ในแบบพรีเมียม
ในส่วนของเครื่องดื่มพรีเมียม วูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ ยังมีรายการไวน์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจาก Napa Valley และไร่องุ่นชื่อดังในยุโรปไว้ให้ได้เลือกสรรอย่างมากมาย เพื่อให้การรับประทานอาหารของคุณเป็นมื้ออันแสนประทับใจที่สุด
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ขยายเวลาทำการและเพิ่มเมนูใหม่ เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเรา” นายประเสริฐ ลออพันธ์พล Co-Partner วูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ ประเทศไทย กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันแบบสบายสบาย หรือ มื้อค่ำอันหรูหรา วูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ ยังคงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีที่สุดในทุกด้านให้กับลูกค้า” โดยทางร้านจะมีเนื้อที่เป็นเอกลักษณ์ Dry-Aged Prime Beef ได้รับการส่งตรงจากสหรัฐอเมริกาในสภาพที่แช่เย็น (ไม่แช่แข็ง) และผ่านการอายุแบบ Dry-Aged เป็นเวลา 28 วันในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอย่างดี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เนื้อมีความนุ่มและรสชาติที่เข้มข้นมากขึ้น”
เมนูใหม่ของ วูฟแกงส์ สเต็คเฮ้าส์ พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป โดยจะเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11:30 น. ถึง 23:30 น. ซึ่งร้านตั้งอยู่ที่โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) โซน THE STOREYS ชั้น 3
สำหรับการจองหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 064 567 2929 อีเมล: reservation@wolfgangssteakhouse.th; LINE: @wg.reservation; Instagram: @wolfgangs_steakhouseth.