วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

นำเชา ประเทศไทย ชี้เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพมาแรง ขนมขบเคี้ยวสายคลีน โอกาสของตลาดที่เติบโต

 


บริษัท นำเชา ประเทศไทย ผู้นำตลาดและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากข้าวชั้นนำของโลก เผยข้อมูลแนวโน้มการบริโภคอาหารปี 2025 พฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง แนะอาหารและขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพจะเป็นโอกาสของตลาดที่เติบโตในปีนี้ พร้อมเปิดตัว "ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค" ขนมข้าวอบกรอบเฮลท์ตี้ ลุยตลาดยุคใหม่

จากรายงานของ Innova Market Insights พบว่า 72% ของผู้บริโภคทั่วโลก ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการของอาหารมากขึ้น ขณะที่ 60% ของผู้บริโภคไทย มองหาอาหารและขนมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเติมแต่ง และมีโปรตีนหรือไฟเบอร์สูง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพโดยไม่ลดทอนรสชาติความอร่อย นอกจากนั้น ผลสำรวจจาก NielsenIQ ยังระบุว่า ผู้บริโภคไทย 48% สนใจฉลากโภชนาการมากขึ้น และต้องการทราบถึงวัตถุดิบที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ 37% ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ หันมาเลือกขนมขบเคี้ยวที่มีโปรตีนสูง ไฟเบอร์สูง และใช้กระบวนการผลิตที่ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการ เช่น การอบแทนการทอด

นายเฮนรี่ เจี๋ย (Mr. Henry Chia) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นำเชา ประเทศไทย ในฐานะผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวจากข้าว กล่าวว่า “กระแสรักสุขภาพจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารและขนมขบเคี้ยวในปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาอาหารที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ไม่ใส่สารกันบูด และผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ด้วยแนวโน้มที่แข็งแกร่งนี้ ผู้ผลิตอาหารและขนมขบเคี้ยวจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

ขณะที่ บริษัท นำเชา ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเช่นกัน โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค” (Super Bites Smart Snack) ขนมข้าวอบกรอบเพื่อสุขภาพ ที่มีทั้งความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นไลฟ์สไตล์สุขภาพ ซึ่งคำนึงถึงสารอาหารที่มีประโยชน์ ลดส่วนผสมที่ไม่จำเป็น และยังคงความอร่อยให้ผู้บริโภคได้เพลิดเพลิน เหมาะสำหรับชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ โดยเฉพาะผู้ที่รักสุขภาพ แต่ยังต้องการเพลิดเพลินกับขนมที่อร่อย ทานแล้วไม่รู้สึกผิด และสะดวกพกพาไปในทุกที่ ภายใต้สโลแกน “สมาร์ทสแน็ค...สมาร์ทช้อยท์”

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดโลกอยู่ที่ 108.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะขยายตัว 4.9% ต่อปี ตามข้อมูลจาก Research and Markets ขณะที่ตลาดไทยก็มีแนวโน้มขยายตัวตามกระแสสุขภาพที่มาแรงในหมู่คนรุ่นใหม่

สำหรับ ‘ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค’ เป็นขนมข้าวอบกรอบที่ผลิตจากข้าวหอมมะลิคุณภาพสูง ผสมผสานกับวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น อิดามาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) และสตรอเบอร์รี่ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนและไฟเบอร์ชั้นเลิศ ผลิตภัณฑ์นี้ใช้กระบวนการอบแทนการทอด เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการและลดไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ปราศจากโคเลสเตอรอล สารกันบูด และกลูเตน มีรสชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รสสปาเก็ตตี้นโปลิตัน: รสชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพาสต้าสไตล์ญี่ปุ่น ผสมผสานกับซอสมะเขือเทศที่ให้รสเปรี้ยวหวานอย่างลงตัว และ รสครีมทรัฟเฟิล: รสชาติหรูหราที่ผสานความนุ่มลึกและความเผ็ดร้อนเล็กน้อย มอบประสบการณ์การรับประทานขนมที่พิเศษยิ่งขึ้น

นายเฮนรี่ เจี่ย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดตัว ‘ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค’ ไม่ใช่แค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทในการสร้างสรรค์ขนมขบเคี้ยวที่ไม่เพียงอร่อยแต่ยังดีต่อสุขภาพ เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้บริโภคที่ต้องการความสมดุลระหว่างรสชาติและคุณค่า และเรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพทั้งในประเทศไทยและระดับโลก”

บริษัท นำเชา ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในกลุ่มขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว (Rice Cracker) ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาท และครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12% นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบชาม ที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 500 ล้านบาท และส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 30%

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริษัท สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.namchow.co.th