วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กองรีท LHSC ปลื้มยอดจองหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนล้น พร้อมเดินหน้าลงทุนครั้งใหม่ใน ‘ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา’ ชูประมาณการยีลด์จากเงินปันผลปีแรกสูงถึง 9.7%




LHSC กองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปิดจ๊อบเพิ่มทุนด้วยยอดจองล้น จากกระแสตอบรับของทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ประกาศราคาเสนอขายสุดท้าย ที่ 10.80 บาทต่อหน่วย ซึ่งเท่ากับราคาสูงสุดตามที่ประกาศไว้ เดินหน้าเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” จากกลุ่มบมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและค้าปลีกขยายตัว จากจุดเด่นทรัพย์สินที่เป็น Tourist Mall และอัตราดอกเบี้ยของไทยและทั่วโลกที่เข้าสู่ขาลง ชูประมาณการอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนหลังลงทุนเพิ่มเติมในปีแรกสูงถึง 9.7% และมีประวัติการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดประสบความสำเร็จ คว้ารางวัล “Best REIT Performance Awards” กลุ่มรางวัล Business Excellence 2 ปีซ้อนจากงาน SET AWARDS 2024

นางสาวจิตติสา เจริญพานิช ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า หลังจากที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ หรือ LH Shopping Centers Leasehold Real Estate Investment Trust (LHSC) ซึ่งเป็นกองรีทกลุ่มรีเทลที่ลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้เปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายย่อยเดิมที่ได้รับสิทธิและประชาชนทั่วไป จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสูงสุด 10.80 บาทต่อหน่วยเมื่อวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา พร้อมกับสำรวจความต้องการจองซื้อจากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของ LHSC ครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จากนักลงทุน ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ (oversubscribed) สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองรีทคุณภาพอย่าง LHSC และได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ 10.80 บาทต่อหน่วย ซึ่งเท่ากับราคาสูงสุดที่ได้ประกาศไว้

ทั้งนี้ LHSC จะเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” เป็นระยะเวลาประมาณ 24 ปี มีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 5,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) โดยมีแหล่งเงินทุนมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน มูลค่ารวมไม่เกิน 3,190 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จากปัจจุบันที่ลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการ “ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก” ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นศูนย์การค้า Tourist Mall ที่ได้รับผลดีจากการเติบโตของการท่องเที่ยว ธุรกิจค้าปลีก และการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยที่เปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ LHSC มีจุดเด่นที่หลากหลาย ได้แก่ เป็นการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินที่พัฒนาและบริหารโดยกลุ่ม บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ทรัพย์สินในปัจจุบันและที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมอยู่ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ และพัทยา และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดย LHSC ประมาณการอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในปี 2568 ภายหลังการเพิ่มทุนสูงถึง 9.7% อ้างอิงประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกองทรัสต์ ตามที่เปิดเผยในหนังสือชี้ชวน

นายยศวีร์ สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า การลงทุนกองรีทในปัจจุบันมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลง ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนของ LHSC ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จากทั้งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประชาชนทั่วไป รวมทั้งจากการสำรวจความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในการลงทุนที่ฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งตลาดหุ้นไทยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนต่อเนื่องจากเงินลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ตลอดจนการเข้าสู่ไฮซีซันของการท่องเที่ยว ซึ่งศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก และเทอร์มินอล 21 พัทยา ถือเป็น Tourist Malls ที่มีกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ครั้งนี้ จะเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้และโอกาสเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ LHSC

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ LHSC กล่าวว่า LHSC เป็นกองรีทรีเทลที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่ขยายตัว โดยคาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งปี 2567 อยู่ที่ 36 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 39.5 ล้านคนในปี 2568 ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากดัชนีราคากลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REIT) ล่าสุดสิ้นไตรมาส 3/2567 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่นกว่า 20% เทียบกับ ณ สิ้นไตรมาสก่อนหน้า และมีความน่าสนใจต่อการลงทุนเพิ่มมากขึ้นจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรอายุ 10 ปี และเงินปันผลของกลุ่มรีทและพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ โดยเฉพาะกองรีทที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีพื้นฐานดี อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งเป็นทรัพย์สินปัจจุบันของกองทรัสต์ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 บนทำเลใจกลางเมืองอโศก-สุขุมวิท จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท รวมถึงแวดล้อมด้วยโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน สถานศึกษา ศูนย์ประชุมนานาชาติ โดยโครงการมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 98% และผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 LHSC มีรายได้จากการลงทุนรวม 696.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการลงทุน รวม 321.4 ล้านบาท เติบโตกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน 8 เดือนแรกแล้วรวม 0.697 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Best REIT Performance Awards ในกลุ่มรางวัล Business Excellence จากงาน SET Awards 2023 และงาน SET Awards 2024 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ตอกย้ำกองรีทที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น

ทั้งนี้ จากศักยภาพและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ที่ LHSC จะเข้าลงทุนเพิ่มเติม ณ ไตรมาส 2/2567 มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99% จะเข้ามาช่วยเพิ่มขนาดสินทรัพย์ของกองทรัสต์ รวมถึงเสริมสภาพคล่องและสร้างโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นแก่นักลงทุน

คำเตือน: ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน