‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ รับปัจจัยบวกจากนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการใช้ยาจากสมุนไพรแตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 มุ่งลดการนำเข้ายา สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เร่งพัฒนานวัตกรรมสมุนไพร ด้วยเทคโนโลยีผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเดียวกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรนวัตกรรมจากไพล เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร เพิ่มการเข้าถึงยานวัตกรรมสมุนไพร ขานรับนโยบายมุ่งลดการพึ่งพิงยานำเข้าจากต่างประเทศ ร่วมขับเคลื่อนการเติบโตอุตสาหกรรมยาของประเทศไทยให้ยั่งยืน
ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เห็นชอบสนับสนุนแนวทางการส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพ โดยเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แบบ Fee Schedule พร้อมปรับระบบบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ให้เอื้อต่อการสั่งจ่ายยาของแพทย์ เพื่อส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพร 32 รายการ ใน 10 กลุ่มอาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ, ไข้หวัด/โควิด-19, ท้องอืด ท้องเฟ้อ, ท้องผูก/ริดสีดวงทวารหนัก, วิงเวียน/คลื่นไส้ อาเจียน, ชาจากอัมพฤกษ์-อัมพาต, ผิวหนัง/แผล, นอนไม่หลับ, ท้องเสีย (ไม่ติดเชื้อ), เบื่ออาหาร โดยตั้งเป้าให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% เพื่อลดการพึ่งพิงยานำเข้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากรายงานภาพรวมมูลค่าการใช้ยาในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐในปีงบประมาณ 2567 มีมูลค่ารวม 70,542 ล้านบาท เป็นยาแผนปัจจุบัน 68,983 ล้านบาท คิดเป็น 97.79 % และยาจากสมุนไพร 1,560 ล้านบาท คิดเป็น 2.21 % โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการใช้ยาจากสมุนไพรเป็น 1,500 ล้านบาท ภายในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2569 โดยนโยบายดังกล่าวส่งผลดีต่อ BLC โดยตรง ในฐานะผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เพื่อสร้างนวัตกรรมสมุนไพรไทย ให้ตอบสนองความต้องการของตลาด และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมสมุนไพร เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพรจากไพล พริก กระชายดำ ว่านหางจระเข้ และใบบัวบก ด้วยกระบวนการผลิตมาตรฐานเดียวกันกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรนวัตกรรมจากไพล เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ทำให้ใช้สวัสดิการประกันสุขภาพของรัฐบาลเบิกจ่ายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาของผู้ป่วย และสนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้น
“BLC มั่นใจว่าการเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาจากสมุนไพรที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และผลักดันให้ยาจากสมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ BLC ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพรไทย เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย และขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน” ภก.สุวิทย์ กล่าว