วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2567

‘TMAN’ ปักธงบุกตลาดเสริมความงามในไทยมูลค่า 60,000 ล้านบาท ปั้นแบรนด์น้องใหม่ Rejunae ชูนวัตกรรมฟิลเลอร์และไหมร้อยหน้าจากเกาหลี รุกขยายฐานลูกค้าคลินิก ดันรายได้เติบโตเสริมพอร์ตฯ แข็งแกร่ง




“บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล” หรือ TMAN รุกใหญ่ขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดเสริมความงามหลัง IPO เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ ‘Rejunae’ นวัตกรรมฟิลเลอร์และไหมร้อยหน้าจากเกาหลี เปลี่ยนรูปหน้าสวยอย่างธรรมชาติ มีคุณภาพและปลอดภัยสูง มุ่งขยายฐานลูกค้าคลินิกเสริมความงาม ตอบโจทย์เทรนด์ความงามบูม ดันมูลค่าตลาดรวมในไทยแตะ 60,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 80% ต่อปี คาดการณ์รายได้จากกลุ่มคลินิกเสริมความงามโตก้าวกระโดด หนุนรายได้รวมของบริษัทฯ มีอัตราเติบโตสูงกว่ามูลค่าตลาดรวมการจำหน่ายยาในประเทศไทยที่เติบโต 6-7% ต่อปี

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประกาศแผนธุรกิจในเชิงรุกหลังจากนำหุ้น TMAN เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดได้เดินหน้าบุกตลาดเสริมความงามในประเทศไทย ร่วมกับ “Mesosolution” พันธมิตรผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามชั้นนำในเกาหลีใต้ ประเทศที่มีนวัตกรรมเสริมความงามเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดย บริษัท ที.แมน ฟาร์มาฯ จะเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีศักยภาพเติบโตเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตของตลาดเสริมความงาม ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีอัตราการเติบโตสูง 14% ต่อปี

สำหรับตลาดรวมเสริมความงามในประเทศไทยคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 80% ต่อปี เนื่องจากคนรุ่นใหม่ใส่ใจดูแลผิวและความงาม ประกอบกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต่างชาติ ด้วยค่าบริการในไทยที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับค่าบริการเฉลี่ยของโลก ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านหัตถการและศัลยกรรมความงามอันดับต้นๆ ของเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์มีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2565 มีมูลค่าตลาด 5,000-8,000 ล้านบาท เพราะเทคโนโลยีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ ลดร่องลึกและทำให้หน้าดูเรียบเนียนขึ้น จึงเป็นที่นิยมของกลุ่มคนหนุ่มสาวยุคใหม่

ความร่วมมือกันครั้งนี้ สอดรับกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านคลินิกเสริมความงาม โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ ไหมร้อยหน้าจากเกาหลี และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ ‘Rejunae’ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ใหม่ในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ที่ช่วยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดความสวยงาม (Aesthetic) ยิ่งขึ้นและตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งด้านตลาดเสริมความงามให้กับบริษัทฯ จากเดิม TMAN เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย LD CREAM หรือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของยาชาสูตร10% สำหรับการทำศัลยกรรมและเวชปฎิบัติเพื่อความงาม เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีพอร์ตโฟลิโอนำเข้าหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ แบรนด์ของบุคคลภายนอก 16 แบรนด์ และเป็นเจ้าของแบรนด์ 226 แบรนด์ มีผลิตภัณฑ์กว่า 842 รายการ (SKUs) TMAN จึงเป็นศูนย์รวมการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ภายในคราวเดียว (One-stop) ที่มีศักยภาพตอบสนองความต้องการของทุกคนได้อย่างครอบคลุม

Mesosolution มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดเสริมความงามชั้นนำในประเทศเกาหลีใต้ มีเทคโนโลยีความงามที่ก้าวล้ำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์และร้อยไหมหน้า Rejunae มีนวัตกรรมโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเฉพาะในการผลิตช่วยให้การปรับรูปหน้าสวยงามเป็นธรรมชาติทำได้ง่ายขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย มั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยีด้านความงามของเกาหลีใต้ถือว่าเป็นผู้นำการวิจัย และพัฒนา เทคนิค สินค้ารวมถึงผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก รวมถึงได้รับการอนุมัติจาก EDQM ภูมิภาคยุโรป โดยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยตอบโจทย์ของคลินิกเสริมความงามไทย

“ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในวงการเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยการรุกขยายแบรนด์ Rejunae ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์และร้อยไหมหน้า จะเป็นก้าวที่สำคัญที่เปิดตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และสนับสนุนคลินิกเสริมความงามทุกแห่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและโซลูชันที่ครบวงจร มั่นใจว่า แบรนด์ Rejunae จะช่วยให้บริษัทฯ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มคลินิกเสริมความงามเพิ่มขึ้น จากไตรมาสที่ 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) มีสัดส่วนรายได้อยู่ 5.7% คาดการณ์รายได้ในช่องทางคลินิกจะเติบโตก้าวกระโดด และผลักดันรายได้รวมของบริษัทฯ เติบโตมากกว่ามูลค่าตลาดรวมการจำหน่ายยาในประเทศที่มีอัตราเติบโต 6-7% ได้ตามเป้าหมาย” นายประพล กล่าว