นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริงเล็งเห็นความสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคมไทย โดยเฉพาะความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพ จึงได้คัดสรรผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยพร้อมรับความคุ้มครองประกันชีวิตและสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ลงทุน โดยได้มีการขอแก้ไขลักษณะโครงการของกองทุนเปิดธนชาต Prime Plus ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (T-PrimePlusAI) มาเป็นกองทุนเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นกองทุนเปิดอีสท์สปริง HealthPlus (ES-HEALTHPLUS) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
กองทุนเปิดอีสท์สปริง HealthPlus (ES-HEALTHPLUS) จะลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาดเอ็มเอไอ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจไม่เกิน 40 บริษัท โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุน (EPM) รวมทั้งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ผู้ลงทุนสามารถจองซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 50,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุน
สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันชีวิตและสุขภาพ ผู้ลงทุนจะได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพ ทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ที่ครอบคลุมค่าห้องผู้ป่วยปกติ ค่าห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) ค่าแพทย์ ค่าตรวจ ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉิน ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค รวมทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ซึ่งเงื่อนไขจะเป็นไปตามแผนความคุ้มครองที่มีทั้งหมด 6 แผนตามจำนวนเงินลงทุน โดยแผนความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปตามมูลค่าเงินลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมรับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจำนวน 50,000 บาททุกแผน ซึ่งผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครองประกันชีวิตและสุขภาพดังกล่าวต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีอายุระหว่าง 15-65 ปี โดยบลจ.อีสท์สปริงเป็นผู้รับภาระการชำระเบี้ยประกันให้กับ บริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเงื่อนไขเอกสิทธิ์การคุ้มครองสุขภาพทั้ง 6 แผน ได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของ บลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน หรือ อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าผู้ลงทุนทั่วไป และการลงทุนในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้