วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567

‘LHSC’ กองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โชว์ผลงาน กำไรครึ่งปีแรกโตกว่า 35% ยีลด์สูงกว่า 10%


คาดว่าเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนไม่เกิน 345 ล้านหน่วยภายในเดือน พ.ย. 2567 นี้ หลัง ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว พร้อมปักหมุดสู่การลงทุนครั้งใหม่ใจกลางเมืองพัทยา





LHSC กองรีทโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จากกลุ่ม บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โชว์ผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยครึ่งปีแรกของ 2567 มีกำไรสุทธิจากการลงทุน 321.4 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจ่ายปันผลครึ่งปีแรกรวม 0.527 บาทต่อหน่วย อัตราเงินปันผลสูงกว่า 10% เทียบกับราคาปัจจุบัน ตอกย้ำศักยภาพทรัพย์สินที่ลงทุน “โครงการเทอร์มินอล 21 อโศก” ศูนย์การค้า Flagship ของกลุ่ม แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ใจกลางอโศก-สุขุมวิท ศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ พร้อมเดินหน้าสู่จุดหมายการลงทุนใหม่ “โครงการเทอร์มินอล 21 พัทยา” โดยคาดว่าจะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ภายใน เดือน พ.ย.นี้

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ หรือ LH Shopping Centers Leasehold Real Estate Investment Trust (LHSC) เปิดเผยว่า กองรีทในกลุ่มรีเทลที่ลงทุนในศูนย์การค้า Tourist Mall มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 17.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย ในปี 2567 ที่ 36 ล้านคน โดย LHSC กองรีทภายใต้การจัดการของ LH Fund ที่ปัจจุบันลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก มีกลุ่มลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกอย่างชัดเจน

ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน LHSC ลงทุนในสิทธิการเช่าโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก โครงการศูนย์การค้า Flagship ของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีแนวคิดและกลยุทธ์ในการพัฒนาศูนย์การค้าที่สร้างประสบการณ์ที่แตกต่างในการช้อปปิ้งให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ ผ่านการออกแบบตกแต่งโดยการนำเอาแลนด์มาร์คของเมืองต่างๆทั่วโลกมาไว้ในศูนย์การค้า บนทำเลใจกลางเมืองอโศก-สุขุมวิท ศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ที่แวดล้อมด้วยโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ชั้นนำ สถานศึกษา และศูนย์ประชุมนานาชาติ และที่ตั้งของโครงการยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ที่มีปริมาณคนใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบนี้และเปลี่ยนเส้นการเดินทางในแต่ละวันจำนวนมหาศาล ซึ่งทำให้โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 อโศก สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าได้เป็นอย่างดี โดยไตรมาส 2/2567 มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย (Foot Traffic) สูงถึงกว่า 47,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 เกือบ 10% และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 98%




ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 LHSC มีรายได้จากลงทุนรวม 696.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการลงทุน รวม 321.4 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นและได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตได้ดี และมีการประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกไปแล้วรวม 0.527 บาทต่อหน่วย อัตราเงินปันผลสูงกว่า 10% เทียบกับราคาปัจจุบัน

ล่าสุดกองทรัสต์ LHSC เตรียมพร้อมขยายการลงทุนสู่พัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของไทยที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และคนไทยยังคงมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยจะลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่า “โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา” อีกหนึ่งโครงการศูนย์การค้าคุณภาพของกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อขยายพอร์ตทรัพย์สินเสริมความแข็งแกร่งแก่ผลการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

โครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ถือเป็นศูนย์การค้าที่เป็นแลนด์มาร์ค สำหรับช้อปปิ้ง และไลฟ์สไตล์ ใจกลางพัทยาเหนือ โดยโครงการตั้งอยู่บริเวณวงเวียนปลาโลมา สามารถเข้าออกโครงการผ่านถนนพัทยาเหนือ ถนนพัทยาสาย 2 และถนนเพ็ชรตระกูล ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของพัทยาเหนือ และเดินทางสะดวกใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งโครงการยังมีที่จอดรถที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการมากถึงกว่า 2,000 คัน รวมถึงตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และใกล้กับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว โดยภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการงานอีเวนต์ ทั้ง Indoor และ Outdoor ทั้งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ใช้เป็นสถานที่ปล่อยตัวและเส้นชัยของงานพัทยามาราธอน 2024 งานใหญ่ระดับประเทศประจำปีของพัทยาที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 คน โดยสามารถดึงดูดผู้ใช้บริการภายในศูนย์การค้าได้กว่า 70,000 คนต่อวัน โดยไตรมาส 2/2567 จำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ย (Foot Traffic) สูงถึงกว่า 37,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 เกือบ 10% เช่นเดียวกันและสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว และโครงการมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงถึง 99% อีกด้วย

โดย LHSC จะเข้าลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา ในมูลค่ารวมไม่เกิน 5,700 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 345 ล้านหน่วย และส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (แบบไฟลิ่ง) แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาให้มีผลบังคับใช้ และคาดว่าจะพร้อมเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้ ภายในเดือน พ.ย. 2567 นี้ โดยมีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม