วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2567

กลุ่มดุสิตธานี เซ็นเอ็มโอยู ไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป ร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ‘ไทย-เวียดนาม’ พร้อมเดินหน้าแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม-พัฒนาภาคท่องเที่ยว 2 ประเทศอย่างยั่งยืน


มั่นใจร่วมสร้างประสบการณ์เชิงนวัตกรรม พร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม ในฐานะตลาดท่องเที่ยวสำคัญของกันและกัน





กลุ่มดุสิตธานี ลงนามในบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับ “ไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป” (Saigontourist Group) หนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการท่องเที่ยวครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทยและเวียดนาม ผ่านการส่งเสริมเชิงกลยุทธ์ การพัฒนางานบริการ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยว

มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ภายใต้บันทึกข้อตกลงที่ทำร่วมกันระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป จะครอบคลุมการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ของตัวเอง รวมถึงแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพ และประสิทธิภาพของบริการด้านการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันสำรวจโอกาสในการพัฒนาธุรกิจโรงแรม และส่งเสริมข้อเสนอการท่องเที่ยวของกันและกัน เมื่อมีการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่ เทศกาลสำคัญของประเทศ และงานท่องเที่ยวต่าง ๆ

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม โดยไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป มีโรงแรม รีสอร์ท สถานบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการประชุมมากมายทั่วประเทศ ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายพันคนต่อปี ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม โดยในปี 2566 และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัท ไซง่อนทัวริสท์ ทราเวล เซอร์วิส (Saigontourist Travel Service) ได้จัดทริปให้กับนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามประมาณ 15,400 คน ในการมาเยือนประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งล้วนเป็นจุดหมายปลายทางที่โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานี มีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง

นอกจากธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทระดับโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว กลุ่มดุสิตธานียังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการศึกษาด้านการโรงแรม โดยมีวิทยาลัยดุสิตธานี โรงเรียนสอนทำอาหารเดอะ ฟู้ด สคูล และโรงเรียนสอนทำอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นแกนหลักในการพัฒนาบุคลากรให้กับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีรวมถึงอุตสาหกรรมโดยรวม ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี และไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป ในการใช้ประโยชน์จากธุรกิจด้านการศึกษา เพื่อประสานความร่วมมือในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจว่า มาตรฐานด้านงานบริการยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกความร่วมมือกับไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นข้อตกลงทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธสัญญาที่จะส่งเสริมการเติบโตร่วมกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยว เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่โอกาสและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งองค์กรของเรา และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยและเวียดนามอย่างแน่นอน” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.ดุสิตธานี กล่าว

มร. เจือง ดึ๊ก ฮุง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไซง่อนทัวริสท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า เชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมศักยภาพในการเติบโตของทั้งสององค์กร โดยจุดแข็งที่ทั้งสองต่างมี จะทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของทั้งเวียดนามและไทยต่อไปในอนาคต

ปัจจุบัน กลุ่มดุสิตธานีมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือรวม 301 แห่ง ใน 18 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต 57 แห่ง และวิลล่าหรู 241 ภายใต้แบรนด์ อีลิท ฮาเวนส์ (Elite Havens) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าวิลล่าระดับลักซ์ชูรีชั้นนำในเอเชีย ซึ่งดุสิตเข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนกันยายน 2561 ขณะที่ในประเทศเวียดนาม กลุ่มดุสิตธานีได้บริหารโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส มูนไรส์ บีช รีสอร์ต ฟู้โกว๊ก (Dusit Princess Moonrise Beach Resort Phu Quoc) และเตรียมเปิดโรงแรมดุสิต เลอ ปาเล ตู่ ฮวา (Dusit Le Palais Tu Hoa) ที่ฮานอยภายในปีหน้า