บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เตรียมเสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [5.25-5.50]% ต่อปี โดยคาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เผยบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง ที่ระดับ BBB ขณะที่หุ้นกู้มีอันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่ม “ระดับลงทุน” หรือ Investment Grade ที่ BBB- มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อมั่นในโอกาสเติบโตของบริษัทฯ และความมั่นคงจากงานในมือ (Backlog) 49,574.45 ล้านบาท
นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [5.25-5.50]% ต่อปี โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2567 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
หุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็น “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ BBB โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวนมาก โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้ง ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งด้วย EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย) จำนวน 590 ล้านบาท หรือ EBITDA Margin ที่ 23% สะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ลดลง สอดคล้องกับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม) ปี 2567 ของบริษัทฯ ซึ่งมีกำไรสุทธิ 34.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 133.41% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆ กัน ทำให้การบริหารรวมถึงการใช้เครื่องจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการซื้อวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากๆ ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างในราคาที่ลดลงได้
UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน
ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ภาครัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ
ล่าสุด กิจการร่วมค้ายูเอ็น-ซีซี ซึ่งประกอบด้วย บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บริษัท ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สำหรับการจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน พร้อมโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญา 1 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลค่า 383.916 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าสัดส่วนงานของ UNIQ จำนวน 322.489 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% ของมูลค่ารวม ส่งผลให้งานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 อยู่ที่ 49,574.45 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571
“เราเชื่อว่า หุ้นกู้ UNIQ จะยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ลงทุน และจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ที่สามารถรับงานโครงการใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นโอกาสในการขยายงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของยูนิค ในฐานะบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศ” นายเติมพงษ์กล่าว
ผู้ลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ UNIQ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
สำหรับผู้ลงทุนทุกประเภท (ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือโทร 0-2111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ไม่รวมผู้ลงทุนสถาบัน)
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 0-2695-5000
บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59