วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567

โฮมโปร คว้ารางวัลความยั่งยืน S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ในงาน S&P Global Sustainability Yearbook 2024




โฮมโปร ได้รับคัดเลือกจาก S&P Global ให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ในกลุ่มดัชนีการตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และได้รับรางวัลความยั่งยืน Top5% S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) Score 2023 ในงาน S&P Global 2024 Sustainability Yearbook Distinction Ceremony ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กรุงเทพฯ จากการประเมินความยั่งยืนขององค์กรกว่า 9,400 บริษัททั่วโลก ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำธุรกิจ Home Solution and Living Experience ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีธรรมาภิบาล ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนและสังคม ตอบสนองวัตถุประสงค์ We make a better living

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โฮมโปร ได้ดำเนินการบริหารจัดการธุรกิจอย่างสมดุล โดยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าสู่สังคม และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นเลิศ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ตามหลัก ESG ดังนี้

ด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Environmental) โดยตั้งเป้าสู่ Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ.2593 จากการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ พัฒนากระบวนการขนส่งและการกระจายสินค้าที่่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Logistic) โดยปรับเปลี่ยนรถขนส่งจากที่ใช้รถน้ำมัน เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งสนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Consumption) ผ่านกลุ่มสินค้า ECO Product สินค้า ECO CHOICE ส่งเสริมแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงการนำสินค้าเก่ามาแลกสินค้าใหม่ เพื่อบริหารจัดการขยะให้เป็นศูนย์ (Zero Waste)

ด้านการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชนและสังคม (Social) โดยการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการ รวมถึงพัฒนาช่องทางใหม่ๆ ที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชนและสังคมผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านการจ้างงานท้องถิ่น พัฒนาคู่ค้า ผู้รับเหมา หรือช่างโครงการเถ้าแก่น้อย ให้เป็นช่างที่มีมาตรฐาน และมีรายได้ที่มั่นคง สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้านให้กับลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ สนับสนุนการประกอบอาชีพของชุมชนโดยการเปิดพื้นที่ให้ชุมชนมาออกร้านจำหน่ายสินค้า อีกทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาพนักงาน ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม ตามหลักสิทธิมนุษยชน

การดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล (Governance)

ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล ยึดมั่นในจริยธรรมและความโปร่งใส ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงขยายขอบเขตการดำเนินไปยังห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมและสนับสนุนให้คู่ค้าร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยร่วมกับแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) จัดอบรมการให้ความรู้ด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ให้กับคู่ค้า และเชิญชวนคู่ค้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ เข้าร่วมเป็นแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าอย่างเป็นธรรม โดยได้ผนวกประเด็นด้านต่างๆ ทั้งด้านความสามารถในการผลิต ความเป็นมืออาชีพ การปฏิบัติตามกฏหมายข้อบังคับ และประเด็นด้าน ESG เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การคัดเลือกคู่ค้า

“การได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) และได้รับเลือกให้อยู่ใน Sustainability Yearbook อย่างต่อเนื่อง เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และได้รับการยอมรับในระดับสากล โฮมโปรยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับชุมชนและสังคม สร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายรักพงศ์ กล่าวปิดท้าย