วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2566

PIN โชว์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด มั่นใจปีนี้ทำยอดโอนขายที่ดิน 600 ไร่ได้ตามเป้าหมาย




บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN โชว์ความสำเร็จการขับเคลื่อนสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกกลุ่มธุรกิจ ตอกย้ำศักยภาพโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง รับเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย มั่นใจปีนี้ทำยอดโอนขายที่ดิน 600 ไร่ตามแผน ดันผลงานทั้งปีทำนิวไฮ

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2566 ถือเป็นปีแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ PIN จากศักยภาพทำเลที่ตั้งของโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และแนวทางการพัฒนาและบริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระดับ Eco World Class เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงานที่อยู่ภายในโครงการและชุมชนโดยรอบให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเทรนด์การค้าของโลกที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของโครงการและการให้บริการแบบ One Stop Service ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ทำให้ยอดขายที่ดินของโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองมีอัตราการขยายตัวที่ดีตลอดช่วงปี 2566 จึงมีการปรับเป้าหมายการโอนขายที่ดินเพิ่มเป็น 600 ไร่ จากเดิม 420 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) จากรายได้จากการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมและรายได้จากการจัดเก็บค่าบริการพื้นที่ส่วนกลางและระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ รวมถึงการรับรู้รายได้จากการให้บริการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีทิศทางขยายตัวดีได้ตามกิจกรรมการผลิตของลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ปริมาณการใช้ระบบสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ PIN เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

“ปีนี้ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรม PIN ที่โดดเด่น ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรงงานเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาลงทุนในประเทศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เป้ารายได้รวมในปีนี้ทั้งปีจะทำนิวไฮได้อย่างแน่นอน” นายพีระ กล่าว