- ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยูนิเวอร์ซิตี้ หรือมหาวิทยาลัย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยเพิ่มทักษะให้ผู้เชี่ยวชาญดาต้าเซ็นเตอร์ โดยให้คำแนะนำฟรีเกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุด การสร้างความยั่งยืน และความริเริ่มด้านประสิทธิภาพพลังงาน
- ก่อนหน้านี้ แพลตฟอร์มเป็นที่รู้จักในชื่อ APC™ Data Center University โดยได้รับการรับรองจาก CPD ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอหลักสูตรกว่าหนึ่งล้านหลักสูตร ให้กับผู้ใช้กว่า 650,000 รายทั่วโลก
- มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีให้บริการถึง 14 ภาษา เข้าถึงง่าย และเปิดกว้างเพื่อมอบความรู้สำหรับผู้จำหน่ายทุกค่ายในประเทศต่างๆ ที่มีความต้องการใช้งานมากที่สุดเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านทักษะในอุตสาหกรรม
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น ประกาศถึงการอัปเดตต่อเนื่องสำหรับ Schneider Electric University ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านความรู้ในระบบดิจิทัลที่ได้รับการรับรองจาก CPD และเปิดกว้างสำหรับผู้จำหน่ายทุกค่าย โดยพร้อมบริการใน 14 ภาษา และสามารถเข้าถึงจากทั่วโลกทางออนไลน์ได้ฟรี ช่วยเพิ่มทักษะให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม พร้อมติดตามความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุด การสร้างความยั่งยืน และความริเริ่มด้านประสิทธิภาพพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน
จวบจนปัจจุบัน มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เผยแพร่หลักสูตรมากกว่าหนึ่งล้านหลักสูตรให้กับผู้ใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ กว่า 650,000 ราย ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลกที่มีฐานผู้ใช้งานอยู่ โดยการอัปเดตใหม่ในส่วนคุณสมบัติของ Schneider Electric University Data Center Certified Associate (DCCA) จะรวมเรื่องของพื้นฐานด้านพลังงาน การทำความเย็น ตู้แร็ค และการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปรับการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ ให้เหมาะสมที่สุดเพื่อสร้างความยืดหยุ่น ให้ประสิทธิภาพด้านพลังงาน และความยั่งยืน โดยตัวอย่างสำหรับหลักสูตรใหม่ล่าสุด เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างการระบายความร้อนสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ กลยุทธ์การเดินสายพื้นฐานในดาต้าเซ็นเตอร์ การตรวจสอบวิธีการป้องกันอัคคีภัยในดาต้าเซ็นเตอร์ และพื้นฐานด้านระบบทำความเย็น จนถึงความชื้นในดาต้าเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ หลักสูตรยังช่วยตอบโจทย์ประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม เช่น การเลือกและการวางแผนไซต์งานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยจะให้แนวทางในการเลือกไซต์งานในพื้นที่ในเมืองที่เคยมีการก่อสร้างมาก่อนแล้ว (brownfield) และพื้นที่ในชนบท (greenfield) เพื่อเข้าถึงพลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีการผลิตพลังงานทางเลือก ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการดำเนินการตามกลยุทธ์ด้านพลังงานหมุนเวียน การผลิตไฟฟ้าในสถานที่ทำงาน และการใช้เทคโนโลยี เช่น ไมโครกริด และเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยช่วยประเมินผลกระทบด้านความยั่งยืนตามแบตเตอรี่ของ UPS ที่แตกต่างกันไป รวมถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีลิเธียมไอออน พร้อมนำเสนอการวิเคราะห์ต้นทุนตลอดอายุการใช้งานที่เกี่ยวข้อง
การตอบโจทย์เรื่องช่องว่างด้านทักษะในอุตสาหกรรม
การวิจัยด้านการสำรวจดาต้าเซ็นเตอร์ประจำปีของ Uptime Institute ในปี 2564 ประมาณการว่า ความต้องการพนักงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2.3 ล้านคนในปี 2568 นอกจากนี้ 32% ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่าประสบปัญหาในการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร โดย 47% ประสบปัญหาในการหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานที่เปิดรับ ทั้งนี้ การดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถในอุตสาหกรรมไว้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตในวงกว้าง
มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้จัดการปัญหาช่องว่างด้านทักษะในอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ และการขาดแคลนผู้ที่มีความสามารถโดยตรง โดยการสนับสนุนให้แต่ละคนเพิ่มพูนทักษะและพัฒนาทางวิชาชีพต่อไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ช่วยให้ธุรกิจสามารถดึงดูด ฝึกอบรมใหม่ให้กับผู้มีความสามารถทั้งรายใหม่และรายเดิมที่มีอยู่ และให้การเข้าถึงความรู้ด้านเทคนิคเฉพาะทาง ได้จากทุกที่
นายแอบเบย์ แอนิล โกสานการ์ รองประธานกลุ่ม Secure Power ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ลาวและเมียนมา เผยว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการเรื่องความสามารถของดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนสร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องมาจากการเร่งปฏิรูปกระบวนการทำงานสู่ดิจิทัล และมีการเร่งนำคลาวด์มาใช้งาน อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนทักษะในภาคส่วนนี้ยังถือเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญและมีนัยสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมอื่นที่เชื่อมโยงกันอยู่ ซึ่งเราเชื่อว่าการชี้แนะแนวทางเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืน คือการที่มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้นำเสนอทรัพยากรอันล้ำค่าที่จะช่วยเชื่อมช่องว่างด้านทักษะด้วยการสร้างศักยภาพให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจ เพิ่มทักษะให้กับพนักงาน และฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญรุ่นต่อไปเพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคต"
คำมั่นสัญญาระยะยาวด้านการให้ความรู้
ก่อนที่จะมีการควบรวมกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในปี 2549 สมาชิกของ Data Center Science Center ที่ APC™ ซึ่งปัจจุบันเป็นแบรนด์เรือธงของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในเรื่องพลังงานสำรองแบตเตอรี่ อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก และโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพด้านไอทีสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบเอดจ์ ได้มีการสร้าง ‘Data Center University' ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลฟรีที่ช่วยฝึกอบรมและยกระดับทักษะของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรุ่นต่อไป วิสัยทัศน์ของพวกเขาคือการสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก CPD ที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งอนาคต
แพลตฟอร์ม "มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ได้เติบโตขึ้นจนสามารถนำเสนอหลักสูตรเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ ประสิทธิภาพด้านพลังงาน และการสร้างความยั่งยืน มากถึงกว่า 200 หลักสูตร ผ่านวิทยาลัยเฉพาะทางสองแห่ง ได้แก่ Professional Energy Manager (PEM) และคุณวุฒิด้าน DCCA โดยทุกหลักสูตรเปิดให้เรียนรู้ได้ตามต้องการ เป็นโมดูลแบบหนึ่งชั่วโมง รองรับได้ 14 ภาษา เปิดให้เข้าถึงการเรียนรู้ด้านพลังงานได้ฟรีจากทุกที่ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน CPD ในอุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 25 แห่ง รวมถึง BICSI, สมาคมผู้รับจ้างไฟฟ้า (Electrical Contractors Association หรือ ECA), วิศวกรของไอร์แลนด์ และพันธมิตรด้านพลังงานทดแทนและประสิทธิภาพพลังงาน (The Renewable Energy & Energy Efficiency Partnership หรือ REEEP)
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเพื่อการพัฒนาทางวิชาชีพโดยเฉพาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และการจัดการพลังงาน โดยเป็นรายแรกของอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังคงความเป็นกลางด้านผู้จำหน่ายแบบ 100% ไม่มีการแบ่งค่าย จนถึงปัจจุบัน มีหลักสูตรมากกว่า 1,000,000 หลักสูตร สำหรับผู้ใช้กว่า 650,000 รายทั่วโลก อีกทั้งมอบแนวทางสำคัญในการดำเนินวิชาชีพแก่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่ต้องการพัฒนาทักษะตัวเองให้ก้าวหน้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยชไนเดอร์ อิเล็คทริค – เริ่มเรียนได้เลย