วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ทุนธนชาต (TCAP) กำไร 9 เดือน ปรับลดลงเล็กน้อย ตามภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ในขณะที่ฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง




บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563 และผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2563 โดยกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปรับตัวลดลง 6% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย แต่อย่างไรก็ตาม ฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง จากเงินสดคงเหลือที่ยังมีอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP “กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปี 2563 TCAP และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 935 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 639 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2563 TCAP และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 6,888 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยกำไรสุทธิของบริษัทย่อยที่สำคัญจำนวน 5,284 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 1,908 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือน ปีนี้ มีจำนวน 5,984 ล้านบาท ลดลง 6.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน 

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรในงวด 9 เดือน ปีนี้ปรับตัวลดลง เกิดจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่หดตัวลงอย่างรุนแรง จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจที่ TCAP เข้าไปลงทุน โดยเฉพาะบริษัทร่วมมีกำไรปรับลดลง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทลูกที่สำคัญของ TCAP ทั้ง บล. ธนชาต (TNS) ธนชาตประกันภัย (TNI) รวมถึง ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ยังมีผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2563 อยู่ในเกณฑ์ที่ดี 

สำหรับฐานะทางการเงินของ TCAP ยังคงแข็งแกร่งจากการที่ TCAP ยังมีเงินสดคงเหลือประมาณ 15,000 ล้านบาท คณะกรรมการและฝ่ายจัดการมีนโยบายที่จะให้ความสำคัญกับการใช้เงินเพื่อดูแลบริษัทลูกให้เข้มแข็ง ส่วนการลงทุนอื่น ๆ คงต้องรอให้สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายจึงจะพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา TCAP ได้ใช้เงินจำนวนประมาณ 1,100 ล้านบาท เพิ่มทุนให้กับ THANI ตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งการเพิ่มทุนของ THANI ในครั้งนี้เป็นไปเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งด้านเงินทุน และบริหารโครงสร้างทางการเงินให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของสถานะทางการเงินของ THANI ในระยะยาว”

นอกจากนี้ TCAP และบริษัทในกลุ่มธนชาต ได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกใน “โครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต” อีกครั้งในไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มธนชาตตระหนักถึงผลกระทบและอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการประกอบธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาลจึงได้ประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นสมาชิกและผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557