ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อดำเนินโครงการ KKP & STECO SMEs Clinic หรือโครงการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้สามารถพลิกฟื้นธุรกิจจากสถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนยกระดับความสามารถทางการแข่งขันสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ณ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนอโศก
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นพิเศษนั้น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้คอยติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยธนาคารพบว่านอกเหนือจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน ลูกค้าจำนวนมากยังต้องการการสนับสนุนในแง่ขององค์ความรู้ทางธุรกิจและการบริหารจัดการที่จำเป็นสำหรับการพลิกฟื้นธุรกิจในสถานการณ์ที่ท้าทาย ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดตั้งโครงการ KKP & STECO SMEs Clinic ขึ้น โดยภายใต้โครงการนี้ ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารจะมีโอกาสได้เจาะลึกความรู้เรื่องการบริหารจัดการและยกระดับศักยภาพธุรกิจจากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และเครือข่าย ตลอดจนรับคำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางในการปรับกลยุทธ์หรือรูปแบบธุรกิจเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ลูกค้าพลิกฟื้น และพัฒนาธุรกิจจนเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า “มจธ.เป็นองค์กรที่ตื่นตัวกับกระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคมเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เราเป็นสถาบันการศึกษาที่สร้างผลงานวิชาการทั้งในด้านการวิจัยการผลิตบัณฑิต การให้คำปรึกษา และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ STECO จะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยกับภาคอุตสาหกรรมผ่านโครงการ KKP & STECO SMEs Clinic ในช่วงสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดข้อจำกัดในการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วไปและผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการห้างร้านต่างๆ ที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ความสามารถในการสร้างรายได้ลดลง เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย มีสัญญาณที่ดีในการที่กิจกรรมทางธุรกิจจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ จึงได้เกิดโครงการ KKP & STECO SMEs Clinic เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้าของธนาคารเกียรตินาคินภัทรให้ฟื้นฟูธุรกิจและพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน เป็นการบูรณาการความรู้ในหลายๆ ด้าน อาทิ การจัดการเชิงกลยุทธ์ การจัดการโลจิสติกส์ การจัดการนวัตกรรม เป็นต้น”
ดร. วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ผู้อำนวยการศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มจธ. กล่าวว่า “ในธุรกิจปัจจุบันนี้มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ปัจจัยทั้งจากสภาวะแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตลาดเขตการค้าเสรีต่างๆ ซึ่งทำให้มีคู่แข่งรายใหม่จากต่างประเทศเข้ามาสู่ตลาดในประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นไปง่ายขึ้น ทำให้คู่แข่งทราบความเคลื่อนไหวและความเป็นไปได้เป็นอย่างดี รวมถึงการนำความรู้ในการบริหารจัดการในเชิงยุทธศาสตร์มาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการในการปรับตัวให้พร้อมรับมือต่อการแข่งขันดังกล่าว KKP & STECO SMEs Clinic เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร ที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้และความเข้าใจในการบริหารเฉพาะทางให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และมีจุดเด่นอยู่ที่คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากภาคอุตสาหกรรม ที่จะให้คำปรึกษาในการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน แก้ปัญหา หรือต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า KKP & STECO SMEs Clinic จะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัย สู่การพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไทยให้ประสบความสำเร็จ สอดคล้องกับปณิธานของ STECO “ความสำเร็จของคุณ ความมุ่งมั่นของเรา”