วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อิตาลีเดินหน้าโครงการ The European Art of Taste โปรโมทผักและผลไม้ในตลาดเอเชีย


โครงการได้รับการสนับสนุนเงินทุน 3.7 ล้านยูโร จากสหภาพยุโรป (EU) และสหกรณ์ผักและผลไม้แห่งอิตาลี (CSO Italy) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมตลาดผักและผลไม้ของอิตาลีในจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งผลปรากฏว่า โครงการได้รับการตอบรับที่ดีในปีแรกของการจัดกิจกรรม

โบโลญญา อิตาลี - แม้สถานการณ์ในปัจจุบันมีความไม่แน่นอน เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 อย่างไรก็ดี โครงการ The European Art of Taste: Italian Fruit & Veg Masterpieces ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมตลาดผักและผลไม้สดและแปรรูปของอิตาลี ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน โครงการดังกล่าวได้รับเงินทุนจาก EU และ CSO Italy และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำในอิตาลี ได้แก่ Origine Group, Oranfrizer, RK Growers, Mazzoni Group, Kingfruit, Joinfruit, Jingold และ Conserve Italia

โดยในปีแรก โครงการมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์คุณค่าและคุณภาพของกีวี ส้มแดง ตลอดจนผลไม้และผักแปรรูปของอิตาลี ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ซื้อและกลุ่มเป้าหมายกว่า 600 รายในปี 2562

ตัวเลขดังกล่าวเป็นผลมาจากการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ในกลุ่มนักข่าว ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด (KOL) ผู้บริโภค ตลอดจนผู้เขี่ยวชาญและผู้ประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมผักและผลไม้ โดยงานด้านประชาสัมพันธ์ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ประกอบกับประสิทธิภาพของรายชื่อสื่อจำนวนกว่า 4,000 ราย ทำให้มีการเผยแพร่บทความ 800 ชิ้นในจีน ซึ่งเข้าถึงผู้อ่านประมาณ 500 ล้านราย (ข้อมูลจาก Cision/Alexa) นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่บทความ 20 ชิ้นในญี่ปุ่น และ 14 ชิ้นในไต้หวัน ขณะที่ผู้บริโภคและอินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทในการช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโครงการผ่านทางโซเชียลมีเดีย (Weibo และ Wechat) ซึ่งเข้าถึงผู้ใช้กว่า 1 ล้านคน ขณะที่เว็บไซต์ทางการ (www.europeanartoftaste.com และ europeanartoftaste.cn) ก็ได้ผลตอบรับที่ดีเช่นกัน

ขณะเดียวกัน โครงการยังได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร (press tour) โดยเชิญนักข่าวและบุคคลในแวดวงอุตสาหกรรมเดินทางไปยังอิตาลีในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และมกราคม ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยวมะเขือเทศ กีวี และส้มแดง เพื่อสัมผัสประสบการณ์การเพาะปลูกและผลิตผักผลไม้ของอิตาลีโดยตรง

นอกจากนี้ โครงการยังได้จัดงานแสดงสินค้าจำนวน 4 งาน ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้พบปะกันแบบ B2B นอกเหนือจากกิจกรรมการออกร้านกว่า 2,300 รายการ ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมประมาณ 750,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ภาวะฉุกเฉินจากโควิด-19 ทำให้จำนวนอีเวนต์ลดลงในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวกีวีและส้มแดง อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของโครงการในปีแรกได้ช่วยวางรากฐานที่สำคัญสำหรับความร่วมมือที่งอกงามในอนาคต

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.europeanartoftaste.com; www.europeanartoftaste.ch

ข้อมูลจาก: พีอาร์นิวส์ไวร์