วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

TPBI โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3/60 ฟื้นตัวดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า มั่นใจทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจมาถูกทาง หลังตลาดตอบรับสินค้าใหม่ดีขึ้น




‘บมจ.ทีพีบีไอ’ หรือ TPBI เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ทำกำไรสุทธิฟื้นตัวดีขึ้น 36.40% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังทิศทางการทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจมาถูกทาง ระบุตลาดต่างประเทศให้การตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่ดีขึ้นต่อเนื่อง ด้านผู้บริหารมั่นใจต้นปี 61 เริ่มเข้าบริหารจัดการโรงงานบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ประเทศเมียนมา เพื่อใช้เป็นฐานผลิตส่งออกอาเซียน ขณะที่โรงงานในไทยคาดขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่ม Flexible Packaging แล้วเสร็จตามแผน หนุนผลการดำเนินงานปี 61 กลับมาฟื้นตัว

นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 (กรกฎาคม-กันยายน 2560) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยมีกำไรสุทธิ 47.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.40% มีปัจจัยมาจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจปรับเปลี่ยนพอร์ตการผลิตสินค้ารองรับเทรนด์อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก โดยขยายไลน์บรรจุภัณฑ์พลาสติกใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น ถุงบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับภาคขนส่งเพื่อรองรับธุรกิจ E-commerce ถุงใส่ผักผลไม้ ถุงสำหรับใส่ครีมตกแต่งหน้าเค้ก เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับดีและมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะถุงใส่ผักผลไม้ที่พบว่ามีอัตราการขยายตัวโดดเด่นและทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ขณะที่กลุ่มสินค้า General Packaging อย่างถุงขยะก็มีการปรับเพิ่มรูปแบบใหม่ ๆ เข้าไปในพอร์ตสินค้าและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม แม้โดยภาพรวมจะดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนธุรกิจ จึงมีผลให้ภาพรวมรายได้ในไตรมาส 3/60 ทำได้ 1,174.03 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2560) ของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,538.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 141.56 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,667.65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 292.56 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TPBI กล่าวว่า แผนดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นการพัฒนานวัตกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองเทรนด์ของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก เช่น การเพิ่มการผลิตผลิตภัณฑ์ General Packaging ใหม่ ๆ, การขยายกำลังการผลิต Flexible Packaging, การขยายการผลิต Multilayer Film, และเริ่มดำเนินการผลิตบรรจุภัณฑ์ด้วยระบบการพิมพ์ดิจิตอล ขณะที่ความคืบหน้าโครงการร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกในประเทศเมียนมานั้น คาดว่าภายในช่วงต้นปี 2561 บริษัทฯ จะสามารถเข้าไปบริหารจัดการเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้แก่โรงงานแห่งนี้ เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดเมียนมาและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกได้

ส่วนแผนดำเนินงานกลุ่ม Value added นั้น ปัจจุบันมีแผนขยายกำลังการผลิต Multilayer Film อีก 2,500 ตัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 9,000 ตันต่อปี และก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคอีก 100 ล้านเมตรต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้ภายในช่วงกลางปี 2561 ขณะที่การติดตั้งเครื่องผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบ Print on Demand เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจอาหาร เวชภัณฑ์ อาหารเสริม วิตามินบำรุง บรรจุภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ปัจจุบันติดตั้งแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยอยู่ระหว่างสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายและรับงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น