‘บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)’ หรือ asap ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจร รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) ประกาศรุกตลาดรถยนต์มือสอง จับมือพันธมิตร One2Car ขายรถยนต์ครบสัญญาการเช่าคุณภาพดีผ่านช่องทางออนไลน์ หนุนกำไรขั้นต้นจากการจำหน่ายรถยนต์มือสองพุ่ง พร้อมเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ทำกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เติบโต 86% หลังธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวที่ยังขยายตัวได้ดีแถมรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นเข้าสู่จุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่คาด
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ ไอคาร์ เอเชีย (ไทยแลนด์) เจ้าของเว็บไซต์จำหน่ายรถยนต์ทางออนไลน์ภายใต้ชื่อ One2Car เพื่อนำรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าระยะยาวของ asap ไปจำหน่ายผ่านช่องทางเว็บไซต์ รองรับกับพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์มือสองของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่นิยมหาข้อมูลรถยนต์มือสองผ่านเว็บไซต์ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ asap สามารถจำหน่ายรถยนต์มือสองไปถึงมือผู้บริโภคโดยตรงผ่านทางออนไลน์ จึงทำให้ asap สามารถทำราคาขายและกำไรจากการขายรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบจากเดิมที่ต้องจำหน่ายผ่านรถยนต์ครบสัญญาเช่าผ่านการประมูล
ทั้งนี้ ในแต่ละปี บริษัทฯ จะมีรถยนต์ครบสัญญาการเช่าที่จะทยอยนำไปจำหน่ายเป็นรถยนต์มือสองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามปริมาณพอร์ตรถยนต์ให้เช่าที่ขยายตัว โดยประเมินว่าในปีนี้จะมีรถยนต์ครบสัญญาเช่าไปจำหน่ายเป็นรถยนต์มืองสองได้ประมาณ 1,000 คันและ จำนวน 4,000-5,000 คัน ต่อปีในอีก 4 ปี ข้างหน้า ที่ asap จะสามารถสร้างกำไรต่อหน่วยจากขายรถยนต์ครบสัญญาการเช่าได้สูงขึ้น
“เดิมเรานำรถยนต์ที่ครบสัญญาการเช่าไปเปิดประมูล แต่หลังจากนี้เราจะนำรถบางส่วนไปจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของพันธมิตร ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีของ asap สามารถจำหน่ายรถยนต์ที่ครบสัญญาได้ในราคาที่ดีกว่าช่องทางอื่นๆ และยังช่วยผลักดันการเติบโตที่ดีให้แก่บริษัทฯ อีกด้วย” นายทรงวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ55 ล้านบาทและมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,036 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท และมีรายได้รวมทั้งสิ้น 563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 403 ล้านบาท
ปัจจัยการเติบโตดังกล่าว มาจากมาจากขีดความสามารถด้านการให้บริการรถยนต์ให้เช่าภายใต้ แบรนด์ asap ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หลังจากบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นก็มีอัตราการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ธุรกิจดังกล่าวมาถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งจากความสำเร็จทางธุรกิจในไตรมาส 3/60 นี้ ทำให้บริษัทฯ ยังเพิ่มฟลีทจำนวนรถยนต์ให้เช่าเพื่อรองรับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทฯ มีจำนวนรถยนต์ให้เช่าทั้งสิ้น 9,965 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ให้เช่าระยะยาว 9,469 คัน รถยนต์ให้เช่าระยะสั้น 368 คัน และรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ 128 คัน
“ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เราประเมินว่า กลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่ทำให้ปริมาณการเดินทางโดยเครื่องบินและใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพื่อเดินทางท่องเที่ยวภายในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง asap ได้เตรียมรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นเพิ่มอีก 100 คัน เพื่อรองรับการให้บริการในช่วงนี้ตามสนามบิน ซึ่งจะเป็นแรงหนุนการดำเนินธุรกิจที่ดีที่ช่วยผลักดันเป้าหมายในปีนี้เติบโตตามเป้าที่วางไว้” นายทรงวิทย์ กล่าว