วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ซื้อกิจการ วัลสปาร์ ขึ้นแท่นผู้นำโลกด้านสีและสารเคลือบผิว




คลีฟแลนด์ - บริษัท เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ (Sherwin-Williams Company) (NYSE: SHW) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เดอร์ วัลสปาร์ (The Valspar Corporation) (NYSE: VAL) ซึ่งภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงควบรวมกิจการนั้น ผู้ถือหุ้นของ วัลสปาร์ จะได้รับเงินสด 113 ดอลลาร์/หุ้น และเมื่อการซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ หุ้นสามัญของ วัลสปาร์ จะยุติการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ และจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก

จอห์น จี มอริคิส ประธานกรรมการ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ข้อตกลงซื้อกิจการนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และผมขอต้อนรับเพื่อนใหม่จาก วัลสปาร์ อย่างเป็นทางการ ผู้มาพร้อมกับความสามารถมากมายที่จะมาช่วยขับเคลื่อน เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ การซื้อกิจการของ วัลสปาร์ ถือเป็นการเร่งผลักดันกลยุทธ์การเติบโตในระดับโลกของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ทั้งยังเป็นการสร้างผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมสีและสารเคลือบผิวอีกด้วย การควบรวมบริษัททั้งสองนี้ก่อให้เกิดแบรนด์ระดับเวิลด์คลาส ต่อยอดรายการผลิตภัณฑ์ ยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเหนือชั้น พร้อมส่งเสริมการทำธุรกิจอย่างกว้างขวางบนเวทีโลก โดยศักยภาพที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านี้จะมอบผลประโยชน์ให้กับลูกค้า และช่วยสร้างคุณประโยชน์ระยะยาวอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเรา”

บริษัทที่ควบรวมกันนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ โดยเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมกัน 1.58 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการจ้างงานประมาณ 60,000 ตำแหน่งทั่วโลก ธุรกิจหลักของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมสีเพื่องานสถาปัตยกรรมในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ จีน ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร สำหรับอุตสาหกรรมสารเคลือบเกรดอุตสาหกรรมนั้น บริษัทที่ควบรวมใหม่นี้เป็นผู้นำระดับโลกด้านสารเคลือบสำหรับบรรจุภัณฑ์ สารเคลือบคอยล์ สารเคลือบงานอุตสาหกรรมทั่วไป และสารเคลือบไม้เกรดอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้ยื่นรายงาน Current Report บน Form 8-K ซึ่งประกอบด้วยงบการเงินล่วงหน้า (pro forma) ประจำปี 2559 ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งสะท้อนข้อมูลการซื้อกิจการของ วัลสปาร์

ตามที่ได้มีการแจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ คาดการณ์ว่าการควบรวมกิจการจะสร้างผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่า 320 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใน 3 ปี เมื่อคำนวณตาม run-rate โดยครอบคลุมขอบข่ายของการจัดซื้อ ค่าใช้จ่ายจากการขายและการบริหาร (SG&A) และกระบวนการ รวมถึงการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังคาดการณ์ว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งเสริมให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นทันที (ไม่นับรวมต้นทุนแบบครั้งเดียว) ทั้งยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดในการดำเนินงานของทางบริษ้ทอย่างมีนัยสำคัญ

เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จะประกาศผลประกอบการทางการเงินประจำไตรมาสสอง สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 ในขณะเดียวกัน เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จะเปิดเผยรายงานแนวโน้มของบริษัทที่ควบรวมกันประจำไตรมาสสามและงวดปี 2560 พร้อมจัดประชุมทางโทรศัพท์เพื่อตอบข้อซักถาม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว จะมีการแจ้งให้ทราบต่อไปในไม่กี่สัปดาห์นี้

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้เสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิเพื่อระดมทุนซื้อกิจการของ วัลสปาร์ โดยเสนอขายในวงเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครบกำหนดชำระภายใน 3, 5, 7, 10 และ 30 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ย (blended) ประมาณ 3.2%

ตามที่ได้แจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ในประกาศเรื่องการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสของ Valspar ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 เนื่องด้วยการซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นก่อนการยุติกิจการในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 วัลสปาร์ จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาส ซึ่งมีกำหนดชำระวันที่ 8 มิถุนายน 2560

เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้ประกาศข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนหุ้นกู้คงค้างทั้งหมดของ วัลสปาร์ ซึ่งหมดอายุลงเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลานครนิวยอร์กของวันที่ 1 มิถุนายน 2560 โดยไม่มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมนับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ตามเวลานครนิวยอร์กของวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 




เกี่ยวกับ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ 
บริษัท เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2409 ปัจจุบันเป็นผู้นำของโลกในด้านการผลิต พัฒนา ขายและจัดจำหน่ายสี สารเคลือบผิว และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง แก่ลูกค้าทั้งในแวดวงวิชาชีพ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ และรายย่อย บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดัง ได้แก่ Sherwin-Williams®, Valspar®, HGTV HOME® by Sherwin-Williams, Dutch Boy®, Krylon®, Minwax®, Thompson's® Water Seal®, Cabot® และอีกมากมาย เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ มีสำนักงานใหญ่ระดับโลกอยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Sherwin-Williams® มีจำหน่ายผ่านทางร้านค้าที่บริษัทบริหารงานเองกว่า 4,100 แห่ง ขณะที่แบรนด์อื่นๆ ของบริษัทมีจำหน่ายผ่านทางร้านค้าทั่วไป ร้ายขายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ตัวแทนจำหน่ายสีอิสระ ร้านขายเครื่องมือ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และตัวแทนจำหน่ายระดับอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัท Sherwin-Williams Performance Coatings Group จัดหาโซลูชั่นที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงสำหรับตลาดการก่อสร้าง อุตสาหกรรม บรรจุภัณฑ์ และการขนส่งในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (ชื่อหุ้น: SHW) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sherwin.com

ข้อมูลจาก: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์