วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ปูนซีเมนต์นครหลวง เผยผลประกอบการไตรมาส 3


โดย นายศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
                                                              บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)

   
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการสำหรับ 9 เดือนของปี 2559 

สรุป 

  • กำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนลดลงจากปีก่อนเกิดจากค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ เช่น ค่าที่ปรึกษา ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น 
  • บริษัทฯ เข้าซื้อกิจการในประเทศศรีลังกาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สยาม ซิตี้ ซีเมนต์ (ลังกา) จำกัด ในการเข้าซื้อกิจการนี้ช่วยเพิ่มยอดขายสุทธิให้แก่กลุ่มบริษัทร้อยละ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 

ผลการดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มบริษัทฯ (9 เดือน) 



ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ 

ยอดขายสุทธิเพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนในกิจการที่ศรีลังกาตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2559 อย่างไรก็ตามยอดขายในประเทศลดลงร้อยละ 3 ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากราคาปูนซีเมนต์และสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลง อีกทั้งความต้องการของตลาดก่อสร้างที่ชะลอตัวลง 

ผลกำไรใน 9 เดือนที่ผ่านมาลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการลงทุนในกิจการต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายจากการปิดเตาเผา ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 

กิจกรรมของธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ 

ปูนซีเมนต์ 

ปริมาณการขายซีเมนต์ในประเทศของกลุ่มบริษัทสำหรับ 9 เดือนลดลงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่าปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศในระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2559 ลดลงร้อยละ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว หรือเทียบเท่ากับ 25.8 ล้านตัน ความต้องการในตลาดที่ลดลงนี้มีผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนลดลง ขณะเดียวกัน ยังไม่มีการดำเนินโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง 

คอนกรีตผสมเสร็จและอะกรีเกต 

บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบด้วยอินทรีคอนกรีตและอินทรีอะกรีเกต มีปริมาณการขายคอนกรีตผสมเสร็จสำหรับ 9 เดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ถึงแม้ว่าราคาขายยังลดลงอย่างต่อเนื่อง 

การเติบโตของตลาดคอนกรีตผสมเสร็จในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้อินทรีอะกรีเกตมีแนวโน้มการเติบโตในทางบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์หินทรายขนาด 20 มิลลิเมตร กล่าวโดยสรุป อินทรีอะกรีเกตมีปริมาณการขายสำหรับ 9 เดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และการมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว 

ผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา (อินทรีซุปเปอร์บล๊อก) 

ยอดขายสำหรับ 9 เดือนของอินทรีซุปเปอร์บล๊อกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้น แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ผลประกอบการของอินทรีซุปเปอร์บล๊อกในไตรมาส 3 ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับผลประกอบการในไตรมาสก่อน 

ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้สำหรับตกแต่ง (คอนวูด) 

บริษัท คอนวูด จำกัด มีผลประกอบการสำหรับ 9 เดือนที่น่าพอใจด้วยรายได้ 347 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์เด่นๆ ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกในไตรมาสที่ 3 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งพื้นคอนวูด และ ผลิตภัณฑ์ไม้ตกแต่งผนังคอนวูด 

แนวโน้มอุตสาหกรรม 

ความต้องการปูนซีเมนต์ยังคงลดลงและอาจจะแค่ทรงตัวในปี 2559 เป็นอย่างดีที่สุด การลดลงของความต้องการในตลาดบวกกับสภาวะที่กำลังการผลิตล้นตลาดส่งผลให้ราคาซีเมนต์ในประเทศปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศบังคลาเทศและประเทศศรีลังกาได้ช่วยบรรเทาสภาวะอุปทานส่วนเกินของธุรกิจซีเมนต์และสร้างผลกำไรให้แก่กลุ่มบริษัทอย่างมาก