DRT แจงผลประกอบการไตรมาส 4/58 โชว์กำไรสุทธิ 58.82 ล้านบาท หลังยอดขายจากตลาดส่งออกจาก CLMV ขยายตัวดี หนุนภาพรวมกำไรสุทธิในปี 58 อยู่ที่ 330.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.41% จากปีก่อน ด้านบอร์ดบริหารอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.13 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผู้บริหาร DRT มองทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 59 ยังทรงตัว วางกลยุทธ์รุกขยายตลาดส่งออกต่อเนื่อง มุ่งเน้นเพิ่มยอดขายสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน หวังผลักดันยอดขายทั้งปีเติบโต 5%
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 (ตุลาคม-ธันวาคม) ว่า บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้อยู่ที่ 908.80 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของก่อน ซึ่งกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากความสำเร็จในการทำตลาดประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ที่มีอัตราเติบโตเป็นเลข 2 หลักและกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์เป็นสินค้าที่ขยายตัวได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่นๆ ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลดีต่อผลภาพรวมผลประกอบการในปี 2558 โดยเฉพาะตัวเลขกำไรสุทธิที่ DRT สามารถทำได้ 330.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 289 ล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 4,165.12 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่ DRT ทำกำไรสุทธิในรอบปี 2558 เพิ่มขึ้นแม้ภาวะเศรษฐกิจและตลาดวัสดุก่อสร้างภายในประเทศยังอยู่ในช่วงชะลอตัว เนื่องจาก DRT มีความแข็งแกร่งในการทำตลาดต่างประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ผู้บริโภคจึงให้การยอมรับในเรื่องคุณภาพสินค้าและมีตัวแทนจำหน่ายที่มีความแข็งแกร่งร่วมกันทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขาย รวมถึงสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการบริหาร Product Mix เพื่อสร้างกำไรที่ดีในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายอีกด้วย
“จากภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัว แต่เรายังสามารถรักษาอัตราการใช้กำลังการผลิตของเครื่องจักรเฉลี่ย 75% ได้ตลอดทั้งปี จากแผนการทำตลาดที่มุ่งเน้นตอกย้ำแบรนด์สินค้าตราเพชรทั้งด้านคุณภาพและความหลากหลายของสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งผู้บริโภคให้การตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดีจึงทำกำไรสุทธิในรอบปี 58 ให้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แม้ตัวเลขยอดขายทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนก็ตาม” นายสาธิต กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง จากผลการดำเนินงานเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.13 บาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 14 มีนาคม 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวอีกว่า แผนดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 5% จากปีที่ผ่านมา โดยมองแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศยังทรงตัว ดังนั้นทิศทางการทำตลาดในปีนี้ยังคงเน้นขยายตลาดส่งออกอย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายสินค้าในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ กลุ่มประเทศ CLMV+I (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนามและอินโดนีเซีย) ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ อินเดีย จีน และไต้หวัน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน DRT มีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกที่ 16% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปในภูมิภาคอาเซียนและตั้งเป้าหมายระยะยาวในปี 2561 จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกเป็น 20% เนื่องจากตลาดวัสดุก่อสร้างในอาเซียนยังมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาและเมียนมาร์ที่ DRT เข้าไปทำตลาดภายใต้แบรนด์สินค้า DIAMOND มานานหลายปี โดยรุกสร้างแบรนด์ผ่านสื่อโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำ พร้อมออกบูธในงานแสดงสินค้าที่สร้างการยอมรับในด้านคุณภาพสินค้าจากผู้บริโภค จึงเชื่อมั่นว่าสินค้าของ DRT จะสามารถเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศได้ตามแผน