เมื่อเร็วๆ นี้ เอสแกลเลอรี (S Gallery) โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ได้จัดงานเปิดตัวนิทรรศการศิลปะชุดใหม่ที่มีชื่อว่า “Oneness” โดย ศราวุธ ยาสมุทร ณ เอส แกลลอรี่
นิทรรศการในครั้งนี้จะจัดแสดงผลงานศิลปะของ ศราวุธ ยาสมุทร ศิลปินมากพรสวรรค์ชาวไทย ผู้ซึ่งจบการศึกษาระดับมหาบัณฑิต สาขาวิจิตรศิลป์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการสอนวิชาศิลปะของประเทศไทย ผลงานศิลปะของเขาแสดงให้เห็นถึง คอนเซ็ปต์การเชื่อมต่อกับสื่อออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ภาพวาดจิตรกรรมสีน้ำมันของเขาต้องการกระทบกระเทียบยุคดิจิตัลผ่านเทคนิคการภาพวาดแบบดั้งเดิม
“นิทรรศการครั้งนี้ ผมต้องการแสดงออกถึง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ที่หมกมุ่นอยู่กับสื่อออนไลน์ โดยถ่ายทอดเป็นผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันผ่านฝีแปรงที่หนักแน่น ฉับไว เพื่อนำไปสู่สภาวะอารมณ์และความรู้สึกในช่วงเวลาต่างๆ” ศราวุธ กล่าว
“Oneness” นิทรรศการศิลปะอันเต็มไปเปี่ยมไปด้วยจินตนาการของ ศราวุธ ยาสมุทร นั้น จะนำเสนอด้วยสีสันอันสดใสมีชีวิตชีวาในรูปแบบของภาพวาดโมเสค (pixilated) และสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญของมนุษย์ในสังคมสมัยใหม่ ซึ่งจะเป็นที่ถูกใจผู้ชมชาวกรุงเทพมหานคร โดยการแสดงผลงานศิลปะในแนวโมเดิร์นนี้แสดงให้เห็นว่า เอส แกลเลอรี (S Gallery) มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจัดแสดงงานศิลปะอันมีชีวิตชีวาในกรุงเทพมหานครให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย
มร.มาแชล ออร์ตัน รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ได้กล่าวว่า “เอส แกลเลอรี (S Gallery) เป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในโรงแรมหรูระดับห้าดาวในกรุงเทพมหานคร ผลงานศิลปะของศราวุธนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดงานเฉลิมฉลอง “เทศกาลดนตรี Fête de la Musique” ในครั้งนี้ งานศิลปะทั้งสองแขนงนี้จะทำให้งานให้ค่ำคืนนี้เป็นงานที่น่าสนใจและสามารถมอบความสุขให้สำหรับแขกที่มาร่วมงานทุกท่าน เราหวังว่าแขกผู้มีเกียรติทุกท่านจะมีความสุขไปกับค่ำคืนหรูแห่งงานศิลปะและดนตรีในครั้งนี้”
ผลงานศิลปะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์นี้จะจัดแสดงที่ เอส แกลลอรี (S Gallery) จนถึงวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559 นี้
นิทรรศการศิลปะชุด Oneness โดย ศราวุธ ยาสมุทร
วิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคมสมัยใหม่นั้น ไม่อาจปฏิเสธสื่อเทคโนโลยี ที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตได้เลย จากความก้าวหน้าในโลกยุคใหม่ที่เป็นโลกไร้พรมแดนของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเชื่อมโยงคนทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกัน เกิดการรวมตัวเป็นสังคมสมัยใหม่ ที่เราเรียกกันว่าสังคมโลกออนไลน์ ผู้คนสามารถพูดคุยกับใครก็ได้เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ และเมื่อเส้นแบ่งระหว่างโลกออนไลน์กับโลกความจริง คล้ายกับว่าจะเป็นโลกเดียวกัน จนทำให้เราเสพสื่อเกินกว่าจะควบคุมได้ เสมือนสิ่งนั้นได้ดึงเอาจิตวิญญาณของเราเข้าไป ถึงแม้จะไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ แต่สำหรับบางคน การได้มีความสุขในโลกออนไลน์นั้น กลับชัดเจนกว่าการใช้ชีวิตบนโลก ความเป็นจริงเสียอีก
Oneness มาจากการรวมกันระหว่างโลกออนไลน์กับโลกความจริงเข้าด้วยกัน ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ไม่อาจถอดถอนจากอารมณ์และความรู้สึกออกจากกันได้ เป็นมิติการสะท้อนสะเทือนทางความรู้สึกของมนุษย์ หรือที่เรียกว่า “โลกเสมือนจริง” ที่ทุกวันนี้ผู้คนได้หลงไหลในโลกเสมือนจริงมากกว่าโลกความจริงซะอีก ซึ่งคนรอบข้างไม่สามารถ กระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกได้เท่ากับบุคคลเสมือนจริง ที่อยู่ในโลกเสมือนจริง จนทำให้หลงลืมตัวตน ลืมบทบาทความเป็นมนุษย์ที่ควรจะเป็น ทุกๆครั้งที่ต้องการแสดงอารมณ์ ต้องการแสดงความรู้สึกภายใน จะต้องผ่านการเชื่อมต่อเข้าไปในโลกเสมือนจริงเสมอ โดยความรู้สึกที่แสดงออกมานั้นอาจจะเป็นความรู้สึกที่จริงหรือไม่จริงก็ได้ เพราะเป็นความรู้สึกที่ผ่านกระบวนการคิดจนทำให้ความรู้สึกนั้นเกิดการปรุงแต่งจนแยกไม่ออกเลยว่าจริงหรือไม่ เพียงเพื่อต้องการแสดงความมีตัวตน ในสังคมยุคเผ่าพันธุ์ทางอิเล็กทรอนิกส์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มาร์ติน เกอร์ลิเย่ร์ ที่ปรึกษางานศิลปะแห่งมูนสตาร์ โทร. 093 582 6588 หรืออีเมล์ Martin.gerlier@gmail.com
เอส แกลเลอรี (S Gallery) โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท
เปิดให้ชมงานศิลปะทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น.
